4/24/2009

so I better hOLD on


- 1 -
มันก็จะมี Gin-Vodka-Tequila-Triple Sec ผสมด้วยน้ำมะนาวและโซดาน่ะ ที่ใช้เป็นส่วนผสมหลักของ Around The World ที่ผมออเดอร์บาร์เทนเดอร์ (สาว) ไป หลังจากที่ใช้เวลาส่ายสายตาไปมาราว 5 วินาทีมองรายการ Cocktail
พวก Screw Driver, Kamikaze, Blue Magarita, Mojito, Gimlet, Long Island, Singapore Sling, Pink lady หรือ Summer Kisses นั่นน่ะ ไม่เข้าตาผมหรอก HA-HA-HA-

ใช่! ต้อง “Around The World” สิ แค่ชื่อก็พิเศษแล้ว

ลึกๆ แล้วก็อยากออกเที่ยวรอบโลกนั่นแหละ แต่ยังไม่พร้อม (ข้ออ้าง)
และก็ยังไม่มี Pocket Money ที่เพียงพอ (ข้อเท็จจริง)
ถ้าผิวเผินนั้นก็คือแค่อยากหาที่นั่งดื่มรอทีมงานที่แยกย้ายกระจายตัวกันไปเดินเที่ยวเล่นใน Walking Street ยามค่ำคืนในสุดสัปดาห์ที่บรรดาผู้คนพลุกพล่านละลานตา

คือผมไม่ค่อยนิยมฝูงชน และค่อนข้างจะขี้เกียจเดินน่ะ
เลยกรอกใบสมัครใจขอเป็นฝ่ายรอดีกว่า

- 2 -
ทริปนี้รู้จักเพื่อนๆ เพิ่มอีก 4 (นับรวมเพื่อนเก่าอีก 3 รวมผมด้วย ทริปนี้เรามี 8)
ก็มีเป็นอาจารย์, นักดำน้ำ, ดีไซนเนอร์ และอีเว้นท์ ฟรีแลนส์เซ่อร์
เรียกว่านานาอาชีพกันเลยทีเดียว
การได้ทำความรู้จักและสนทนากับผู้คนที่แตกต่างจากเราออกไปเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นการเปิดหน้าต่างบานใหม่ๆ นะ— ผมว่า
หลายๆ เรื่องที่เราไม่เคยรู้ ก็จะได้รู้
มันช่วยเปิดโลกทัศน์ที่คับแคบของตัวเราออกไปสู่ความไพศาลของชีวิตดี
เพราะในความหลากหลาย มันมักมีความหมายอยู่ในนั้นเสมอ
คือการเติมและเพิ่มการเรียนรู้ให้ตัวเราเอง
และจะเป็นการสั่งสมประสบการณ์ที่ทั้งดีและไม่ดี เพื่อที่จะตกตะกอนออกมาในรูปแบบของการรู้จักตัวเองที่มากขึ้นในภาคหน้า
ว่าของแบบนี้เราชอบ- ยอมรับได้ หรืออะไรแบบนั้นมันไม่ใช่- เราไม่ปลื้ม
สำคัญที่สุดคือเรา ‘เป็น’ คนแบบไหน

การพัดเข้ามาของอากาศข้างนอกหน้าต่างที่ว่านั้นก็จะช่วยทำให้บรรยากาศภายในห้องหัวใจของเรานั้นหมุนเวียนถ่ายเท
และก่อให้เกิดความ โ ป ร่ ง โ ล่ ง ขึ้นในบางซอกมุมที่อับชื้นเสมอ

- 3 -



- 4 -
วัดจาก Around The World แก้วสีฟ้าที่แห้งเหือดเหลือแต่เสี้ยวฝานบางๆ ของมะนาวตรงก้นแก้วไปแล้วจำนวน 2 แก้ว ก็ทึกทักเอาเองได้เลยว่าผมออกไปวนรอบโลกมาแล้ว 2 รอบ โดยกินเวลาราว 30 นาทีไม่ขาดไม่เกินไปจากที่เรานัดกันไว้ตั้งแต่ที่ผมเริ่มออกเดินทาง โดยการนั่งปุ๊กลงที่ร้าน Cocktail ตรงหัวมุมถนนคึกคักเส้นนี้

ทีมงานทุกคนกลับมาตามเวลาที่นัดกันไว้ครบจำนวน 6 ใน 8 นั้นก็ได้ของเล็กๆ น้อยๆ เป็นขวัญของฝากติดไม้ติดมือกันไป
เรากำลังเตรียมตัวจะกลับที่พัก ซึ่งเป็นบ้านของเพื่อน (ผู้เป็นพี่) ชายใจดีคนหนึ่งในทีมงาน คืนนี้มีปาร์ตี้ที่มีอาหารทะเลเบาๆ และเครื่องดื่มหนักๆ ร่วมกับดีเจ “ลมทะเล” ที่มาช่วยเปิดแผ่นโดยใช้เสียงคลื่นแทนแผ่นเสียงรอเราอยู่ที่ระเบียงบ้านหลังที่ว่า

ดูพิเศษนะ บ้านพักริมทะเลที่มีระเบียงและเสียงคลื่นน่ะ

แต่เหมือนตัวตนของผมกำลังอิดออดยังไม่ยอมกลับแต่โดยดี
การออกไปวนเล่นรอบโลกนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร
จริงอยู่— ที่ว่าเรื่องราวที่เราจะได้พบเจอในระหว่างนั้นมหาศาลแน่นอน
Around The World เบื้องหน้าเองนั้นก็ยังมีส่วนผสมตั้งหลายขนาน
แต่การเดินทางเพียงลำพังมันออกจะ “เดียวดาย” เกินไปกว่าที่หลายต่อหลายคนให้กำลังใจด้วยคำว่า “เด็ดเดี่ยว”
จะมีประโยชน์อะไร ถ้าเราเห็น— ได้ยิน— หอม— รู้สึก— อิ่ม—
หรือ (แม้แต่) เมาอยู่คนเดียว

และผมก็อยู่ในอารมณ์ที่อะไรบางอย่างข้างในยังคงอ้อยอิ่งไม่แพ้กัน
It's Grasping to control
มันร่ำๆ ว่าจะต้องการจะนั่งรออะไรบางอย่าง
ซึ่งไม่รู้ด้วยว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหน
เพราะก็ยังไม่มีเค้าเอาเสียเลยว่าสิ่งๆ นั้นจะมา

4/21/2009

ปลื้ม— สำหรับบางวัน


มีข่าวมา PR กันเล็กๆ น้อยๆ ครับ
คือส่งภาพนี้เข้าร่วมประกวดไว้ในเว็บไซต์โฟโต้อาร์ท
ปรากฎว่าได้เป็น 1 ใน 3 ของ Photos of the week (ที่ 16) กับเขาด้วยแหละ
ก้อแอบอมยิ้มแก้มแทบปริ-ดี-จาย-กาน-ปาย
ตามไปดูชมได้ที่ http://www.4toart.com

และ/หรือสามารถตามไปชมในแบบเต็มๆ ของภาพชุด “แอม ไฟนน์ Sabai Dee” (2006) ได้ที่ http://1306ix.blogspot.com/2007/05/sabai-dee.html
^__^

4/15/2009

Global WORM ing

เรียงความเรื่อง “หนอนและโลกร้อน”
โดย ด.ช. ซัม เมอเร่อ รหัสประจำตัว 42521306
(คนที่นั่งริมหน้าต่างข้างหลังห้องน่ะครับ-- ถ้า’จารย์นึกไม่ออก)

ข้าพเจ้าไม่ชอบอากาศร้อน และเช่นกันที่ไม่ชอบหนอน
อาจพูดได้ว่าไม่นิยมสิ่งมีชีวิตตระกูล Larva ไม่ว่าจะเป็นหนอนตัวกลม ตัวแบน ตัวเอียง หรือ หนอนตัวเองก็เหอะ (Vermiform, Eruciform, Scarabaeiform or Compodeiform) ยิ่งเป็นน้องหนอนที่มาพร้อมๆ กับอากาศร้อนๆ ด้วยแล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่

ข้าพเจ้าไม่ได้รับประทานพุทรามานานพอๆ กันกับระบบราชการไทยในช่วงใกล้วันหยุดเทศกาล จะว่าไปผลไม้อีกหลายอย่างก็ไม่ต่าง เพราะไม่ค่อยมีความพยายามหรือกระตือรือล้นออกไปหาซื้อหามาทานเท่าใด ด้วยความที่เป็น “เกษตรบุตร” (หรือแปลเป็นภาษาชาวบ้านได้ว่า “ลูกชาวสวน”) แต่กำเนิด ใจจึงมีอคติเล็กๆ น้อยๆ (ซึ่งก็ยังแก้ไม่หายขาดดี) ว่าทำไมจะต้องควักสะตุ้งสตางค์เพื่อซื้อหาของที่ละแวกบ้านเรานั้นมีมหาศาลบานเบอะเยอะแยะ

การกลับไปบ้านสวน (จันทบุรี) ครั้งล่าสุดของข้าพเจ้าในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนที่ผ่านมานั้นถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้ลิ้มลองรสชาติหวานซ่อนเปรี้ยวของผลไม้ที่ว่านั่นอีกครั้ง…

...วันนั้นมันเป็นบ่ายแก่ๆ วันหนึ่งในครัว ที่ค่อนข้างร้อนถึงร้อนได้อีก
เทอร์โมมิเตอร์ติดข้างฝาแจ้งระดับอุณหภูมิโดยรวมภายนอกว่า 39.99 องศาฯ
(ให้ตายเถอะ’จารย์! บ่ายวันนั้นมันร้อนมากจริงๆ!)
มีพุทราจำนวนหนึ่งอยู่ในตู้เย็นของข้าพเจ้า
ลูกกลมๆ สีส้มผสมเขียวไล่เฉดอ่อนแก่พอกพูนมูนอยู่ในชามแช่เย็น
สอบถามกับหม่อมป้า ข้าพเจ้าจึงแจ้งว่าเป็นพุทราที่คุณอาข้างบ้านปันมาให้ทานจากสวนปลอดสารพิษ (Organic) ของแก
ถ้าจะพูดให้ร่วมสมัยก็ต้องบอกว่าเป็น “Raw Fruits”

กร้วบบ!!!
ข้าพเจ้ากัดกินพุทราลูกแรกในรอบเกือบสี่ปีด้วยความถวิลหา

ไม่กี่วินาทีหลังจากที่เสียง “กร้วบบ!!!” นั้นดังขึ้น ร่างกายของข้าพเจ้าก็จำต้องสั่นเทิ้มยืนนิ่งไม่ไหวติง น้ำตาอุ่นๆ ของข้าพเจ้าก็เป็นอันต้องเอ่อล้นและลามไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้าง

แต่ไม่ใช่เพราะเกิดจากความปลาบปลื้มในรสหวานซ่อนเปรี้ยว หรือเสียวตามไรฟัน น้ำตาที่นองหน้านั้นเกิดจากการที่ข้าพเจ้าต้องกล้ำกลืนยืนทานพุทราปลอดสารท่ามกลางอากาศร้อนที่มีหนอน Vermiform ชอนไชอยู่ภายใน

และให้ตายอีกครั้งเถอะ’จารย์... มันเหลืออยู่แค่ครึ่งตัว

4/10/2009

PICNIC -- I'm a summerer


In contemporary usage, picnic can be defined simply as a pleasure excursion at which a meal is eaten outdoors (al fresco or en plein air), ideally taking place in a beautiful landscape such as a park, beside a lake or with an interesting view and possibly at a public event such as before an open air theatre performance, and usually in Summer.

Picnics are often family-oriented but can also be an intimate occasion between two people, or a large get-together such as company picnics and church picnics. It is sometimes combined with a cookout, usually either grilling, barbecue, or a combination of both.

On romantic and family picnics a picnic basket and a blanket (to sit or recline on) are usually brought along. Outdoor games or some other form of entertainment are common at large picnics.

Some picnics are a potluck, an entertainment at which each person contributed some dish to a common table for all to share. When the picnic is not also a cookout, the food eaten is rarely hot, instead taking the form of deli sandwiches, finger food, fresh fruit, salad, cold meats and accompanied by chilled wine or champagne
or soft drinks.

บรรยา/อากาศในเมืองร๊อน ร้อนนะช่วงนี้
ขอแว้บไปปิกนิกต่างจังหวัดสักสี่ซ้าห้าวันเน่อ
ใครที่อ่านดอยฯ จบแล้ว และแวะเข้ามา ก็ทิ้งคอมเม้นท์ไว้บ้างนะ
ว่าชอบ-หรือไม่ชอบยังไง ยังไงดี กลัวเธอลำบากจังเลย (อ๊ะ! คุ้นๆ แฮะ)

หยุดยาววววววววววแบบนี้ เที่ยวกันให้สนุกนะครับ ^_^

*ข้อมูลจากวิกิพีเดีย http://en.wikipedia.org/wiki/Picnic

4/03/2009

ปกกล้าขาแข็ง


หลังขดหลังแข็งนั่งพับเพียบ (หมายถึงพับกระดาษนะ) จนดึกดื่นอยู่หลายคืน
ในที่สุดก็ทำคลอดน้องดอยออกมาจนได้
เลยเอาปกมาแปะให้ดูกันแก้เขิน
ไงบ้าง หน้าตาน่ารักน่าชังดีไหมเอ่ย^^

ทำปกไว้ 4 แบบครับ และก็ใช้มันทั้ง 4 แบบนั่นแหละ แต่ชอบปกนี้
เลยจะแถลงให้ฟังนิดหน่อย
“ふらふら” อ่านว่า “ฟุระฟุระ” แปลได้ประมาณว่า “หลักลอย” หรือ “เอ้อระเหยลอยชาย” (ถ้าแปลไม่ผิดนะ ใครแตกฉานเรื่องภาษาก็รบกวนชี้แนะด้วยเน่อ) ชอบทั้งหน้าตาของตัวอักษร แล้วก็ความหมาย
ดูมัน “ลอยลอย” ดี

และต้องขออภัยสำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่แวะไปถามไถ่ถึงน้องดอยที่บูธในหลายๆ วันที่ผ่านมาด้วยนะครับ หนังสือเสร็จไม่ทันจริงๆ
เป็นเพราะความง่วงหงาวหาวนอนของผมเอง ขอรับผิดไว้แต่เพียงครึ่งเดียว
แต่จะเก็บไว้ และส่งให้ถึงมือเลยฮะ

วันที่ 3 - 4 - 5 และ 6 เมษานี้ ถ้าใครได้ไปเที่ยวไหนก็ตาม ขอให้สนุกสนานและเบิกบานสุขสำราญกลับมานะครับ
ส่วนใครที่ไม่ได้ไปไหน ว่าง และคิดจะแวะมาที่งาน
มี (แอบ) วางอยู่ที่บูธแน่นอน ไม่ลอกอครับ
See Ya...