6/24/2012

คิดถึงสีฟ้าเวลา... (Missing Blue)


จัดห้องไปจัดห้องมาก็ไปเจอรูปใบนี้เข้าให้
โฉมหน้าของ 'สีฟ้า' ทีมที่ดีที่สุดในปีนั้น ด้วยที่ว่าเราคว้า 'แชมป์กีฬาสี' มาครอง
ผมเองยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมในตำนานชุดนั้น

ซึ่งจะชำระและรำลึกถึงส่วนผสมปนเปของความสำเร็จครั้งนั้นให้ฟังดังนี้

เริ่มที่เรามีไอ้ 'หัวตูด' เป็นนายทวาร ณัฐ เพื่อนผมตั้งฉายาให้น้องมันแบบนั้น เพราะรูปทรงหัวของน้องมันเหมือนก้นคน (ไอ้ณัฐมันอ้างว่าอย่างนั้น) แล้วพวกเราก็เฮโลสาระพากันเรียกตามด้วยความถูกอกถูกใจในฉายาที่ว่า แต่จะว่าไปฝีมือมันก็ดีจริงๆ นั่นแหละ นานๆ เราจะพบเจอคนที่อยากเล่นตำแหน่งนี้

เรามี 'อานนท์ ไพชำ' ชายผู้สวมหมวกตลอดเวลาเป็นกองหลังกับตันทีม ทุกๆ คนเห็นพ้องต้องกันว่าอานนท์คือกองหลังที่ดีที่สุดในยุคนั้น แต่แท้จริงแล้วเดิมทีไอ้'นนท์มันอยู่สีม่วง ถือเป็นบุญวาสนาของทีมเรา เพราะน้อง 'ลินดา' หญิงสาวที่มันหลงใหลได้ปลื้มอยู่สีเรา ในนามของกองหลังที่ดีที่สุด อานนท์จึงใช้อภิสิทธิ์นั้นย้ายสีมาเล่นกับเรา เผื่อจะเข้าตาน้องลินดาอันเป็นที่รักเข้าบ้าง และยิ่งได้มาเล่นคู่กันกับ 'เซียนโด่งไม่รู้ล้ม'  ยักษ์ปักหลั่นจากหลังสวนของเราด้วยแล้ว แผงหลังของเราก็ไร้เทียมทาน

ถ้า ณ เวลานี้นักเตะที่ดีที่สุดของในคือ 'แมสซี' นะ ยุคสมัยนั้นก็เป็น 'จูเนียร์' อย่างไร้ขอครหา เวลาลูกอยู่กับเท้ามัน ไอ้'เนียร์สามารถรังสรรค์เกมส์บุกได้ราวกับร่ายมนต์ มันมีทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่งดุดัน อีกทั้งความแม่นยำในการยิงประตู แล้วพอมันได้กำลังเสริมอย่าง 'ฤทธาคะนอง' กลางรับหน้าตาไร้อารมณ์ของเราด้วยแล้วก็ยิ่งเล่นดีใจหาย ไอ้ฤทธาคะนองนี่ก็สำมะคัญนักแล เป็นคนประเภทปิดทองหลังพระโดยแท้ 

นอกนั้นในทีมเราก็ยังมีจรวดทางเรียบอย่างไอ้น้อง 'หน้ากระชาก' (ฉายานี้ไอ้ณัฐมันก็ตั้งให้อีก), ปีกฉัตร, ภูริทัต, น้องๆ เพื่อนๆ ในทีม แล้วก็ผม แบ็กซ้ายไก่กาผู้ถนัดขวา แต่เนื่องจากทีมเราไม่มีซ้ายธรรมชาติเหมือนสีอื่นๆ ผมจึงอาสาประจำการทางกราบซ้ายเพื่อทีม (อั่ยยะ! แมนมั่กๆ!) ซึ่งรวมๆ แล้วสีฟ้าของเราก็เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบจริงๆ ทั้งรุกและรับ

ไงล่ะ สีฟ้าของผม บาซ่าก็บาซ่าเหอะ ฮ่าๆ 

ด้วยช่วงนี้มีเทศกาลฟุตบอลยุโรปอยู่พอดี จึงอยากหยิบยกเอาเรื่องราวเก่าๆ ในความทรงจำมาเล่าสู่กันฟัง ภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายตอนก่อนเตะนัดชิงกับสีม่วง
ก่อนที่อีก 90 นาทีต่อมาเราจะคว้าแชมป์

6/20/2012

สักวันฉันจะ

เป็นกติกาสากล
ใครโดนยิงลูกแรกก่อนต้องถอดเสื้อ นั้นก็เพื่อให้ชัดเจนในการแบ่งข้างของเรา ให้ง่ายต่อเกมส์การเล่น หนุ่มๆ น้องๆ ข้างที่เกมส์รับหละหลวมปล่อยให้อีกฝ่ายบุกทะลวงเข้ามาทำประตูขึ้นนำได้ก่อน จำยอมต้องเปลื้องเครื่องนุ่งห่มชิ้นบนออก แต่คุณน่าจะรู้ว่ามันได้เผยให้เห็นอาภรณ์สีทะมึนอีกชั้นที่เร้นอยู่ภายใน

...รอยสัก

ระยะนี้พอแดดร่มลมตกฉันก็จะมาออกกำลังกายที่สนามแห่งนี้เป็นประจำ
ที่แห่งนี้เป็นลานกีฬาไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่บ้าน ฉันสามารถปั่นจักรยานมาได้ ภายในบริเวณมีเครื่องออกกำลังกายอยู่ห้า-หกชิ้น ถัดไปมีลานแอโรบิกพร้อมเวทีขนาดย่อมเยา (แต่ยามเปิดเพลงออกลำโพงแล้วเสียงไม่เบาเอาเสียเลย : ) ให้บรรดาพี่ป้าน้าอาทั้งหลายได้โยกย้ายส่ายสะโพกกัน
ฉันชอบที่นี่เป็นพิเศษก็ตรงที่สามารถเห็นวิวภูเขาได้เสมอในเวลาเงยหน้ามองออกไปทางทิศนั้นนั่นเอง

หลังแล้วเสร็จจากการวิ่งอบอุ่นร่างกาย ก็ได้เวลาลงสนาม
เย็นวันนี้ในสนามบอลเรานั้นมีอยู่ด้วยกันสิบสองคน จึงแบ่งกันได้เป็นข้างละหก
และไม่ใช่เรื่องตลก ที่ห้าในหกของอีกข้างนั้นสักเต็มตัวไปหมด ไม่ว่าจะหน้าอก, แผงหลัง, ต้นแขน, ต้นคอ, สีข้าง ถ้าลองพินิจพิจารณาดูให้ดีก็จะเห็นทั้งเกราะเพชรหนุนดวง, ยันต์เก้ายอด, แปดทิศ, ห้าแถวมหาลาภ, โคตรปลาคาร์พ, มังกรและพยัคฆ์, สร้อยสังวาลย์, หนุมานฤๅษีและอีกมากมายทวยเทพอยู่ในนั้น เส้นสายลวดลายอักขระสีดำนั้นคล้ายกลายเป็นเครื่องแบบอีกแบบที่เกือบจะเหมือนกันของอีกฝั่งเลยทีเดียว

ฉันเห็นแล้วก็ให้รู้สึกอึ้งทึ่งและตกตะลึงพรึงเพริดกับฝั่งข้างของคู่แข่งเราทันที
รอยสักชโลมด้วยไคลเหงื่อนี่ก็ช่างสวยงามท้าทายผู้ชายอย่างฉันเหลือเกิน
มันทั้งตื่นตา ตื่นใจ และตื่นตัว

ฉัน ในความหมายที่นอกเหนือจากความเป็นผม
ฉัน ชายที่ชื่นชอบผีเสื้อและดอกไม้

ดูก่อนชายฉกรรจ์
สักวันฉันจะสัก!