7/01/2008

บ้านหลังใหญ่กับคนรับใช้ใส่เครื่องแบบ

ถ้าไม่พูดถึงพล็อตเกี่ยวกับแม่ผัว ตัวอิจฉาและน้ำตาลูกสะใภ้แล้ว เท่าที่ผมพอจะนึกออกเกี่ยวกับละคร (ไทย) หลังข่าวนอกจากนี้ มันก็น่าจะมีบ้านหลังใหญ่ๆ มีบริเวณ แล้วก็คนรับใช้ที่ใส่เครื่องแบบอยู่ 4-5 คน รวมเอาคนสวนและคนขับรถเข้าไปด้วยแล้วในนั้น

ที่เกริ่นไปแบบนั้นก็เพราะว่าเพิ่งได้มีโอกาสได้นั่งดูละครกับเขาเต็มๆ เกือบ 2 ชั่วโมงแบบมีโฆษณาคั่นบันได (คือมีหลายขั้น) เมื่อวันก่อนตอนกลับไปบ้านสวนที่จันทบุรี เป็นความตั้งใจไว้แล้วว่าในหน้าผลไม้ (ช่วงเดือนเมษาฯ - มิถุนาฯ) ถ้าไม่โดนฉุดดึงด้วยงานจนเกินไป จะต้องหาเวลากลับมาบ้านในช่วงนี้ให้ได้ทุกปี แต่ 2-3 ปีหลังมานี้พอกลับมาบ้านสวนช่วงนี้ทีไรถ้าไม่เจอฝนตกหนักไปเลย ก็จะเจอแบบกระปิดกระปอย ทำให้มักไม่ค่อยอยากจะออกไปไหนต่อไหน ถ้าไม่เลือกที่จะหยิบจับหนังสือหนังหาเอามาอ่าน ก็จำต้องนั่งๆ นอนๆ ดูทีวีอยู่แต่ในบ้าน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทีวีโปรแกรมไป

และในยามค่ำคืน- แน่นอน- รายการหลักเลยคือละครหลังข่าวที่หลายต่อหลายคนแสดงทัศนคติว่าไม่นิยม และก็บอกว่าน่าเบื่อ ย่ำอยู่กับที่ ไม่รู้เมื่อไหร่ละครไทยจะพัฒนาเสียที มีแต่เรื่องผัวๆ เมียๆ ตบๆ จูบๆ

โดยปกติแล้วผมมักไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ดูละครทางทีวีแบบเต็มๆ ที่กรุงเทพฯ เท่าใดนัก จากเหตุที่ว่ากว่าจะเสร็จจากการงาน หรือหาข้าวปลายัดลงกระเพาะสำหรับมื้อเย็นให้เรียบร้อยก่อนแล้ว ก็ค่อนข้างไปทางดึก พอกลับถึงห้องเช่าก็อาจจะทันแค่เพียงตอน- สองตอนสุดท้ายของละคร ซึ่งมันก็ปะติดปะต่อเรื่องราวอะไรไม่ค่อยได้แล้ว ละครหลังข่าวจึงไม่ได้มาเจียดเบียดแบ่งตารางเวลาในหนึ่งวันทำการของผมแต่อย่างใด ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วถ้ามีโอกาสได้ดูแบบจดจ่อจริงจังก็อาจจะอยากรู้อยากติดตามตอนต่อไปก็เป็นได้

แตกต่างจากแม่ และคนเฒ่าคนแก่แถวบ้าน ที่ละคร (แม่ยืนกรานว่าไม่ใช่ละครน้ำเน่าอย่างที่ใครๆ เขาพูดกันแน่นอน และให้เหตุผลอ้างอิงว่าน้ำเน่านั้นมีแต่ในกรุงเทพฯ ซึ่งก็น่าจะมีส่วนจริงอยู่ไม่น้อย) หลังข่าวอาจเป็นสื่อหรือช่องทางเพียงชนิดเดียวที่พอที่จะให้ความบันเทิงและเสียงหัวเราะ (รวมถึงเสียงก่นด่าตัวอิจฉาในเรื่อง) ยามค่ำคืนแก่ชาวบ้านในหมู่บ้านสวน (หรือบ้านนอก-ในความหมายเดียวกัน) ที่ไร้ซึ่งเสียงแสงและสีสันเช่นนี้ มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว

ละครคืนนั้นยังเหมือนเก่าก่อน ยังคงมีบ้านหลังใหญ่กับคนรับใช้ใส่เครื่องแบบให้เห็นอยู่เหมือนเดิม แต่เท่าที่เห็นและเป็นไปในละคร ดูเหมือนว่าคนในบ้านนั้นจะไม่ได้มีความสุขสบายใจเท่าใด ทั้งๆ ที่มันน่าจะเป็นอย่างนั้น บ้านหลังใหญ่และคนรับใช้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ภายในบ้านใหญ่หลังนั้นยังคงอิจฉาริษยา ชิงดีชิงเด่น แย่งชิงผลประโยชน์กันและกัน ใส่ร้ายป้ายสีโทษกันไปมาอยู่ คนดีๆ ก็ถูกกีดกันปิดกั้น เฝ้ารอคอยคืนวันที่ความจริงจะแดงแจ๋แฉและชี้ชัดให้ทนงศักดิ์ ประจักษ์กับตาขึ้นมา ซึ่งคงอีกไม่นาน ยังไงๆ เสียความจริงก็เป็นสิ่งไม่ตาย ก็ได้แต่หวังกันไป ทำกันเท่าที่พอทำได้กันไปก่อน

ดูไปดูมาก็คิดไปเรื่อยเปื่อย

เหม่อเผลอไผลใจลอยไปแปบเดียว ท่วงทำนองเพลงตอนจบของละครก็ได้ฤกษ์เริ่มบรรเลงบ่งบอกว่าหมดเวลาสำหรับค่ำคืนนี้แล้วสำหรับคุณผู้ชมทุกท่าน โปรดติดตามตอนต่อไป พร้อมมีตัวอย่างบางฉาก (ด่ากราด/ตบฉาด) บางตอนในครั้งหน้าช่วยดึงดูดว่าห้ามพลาด

ผมเห็นคล้อยตามอย่างที่แม่บอก- มันไม่ได้น้ำเน่าและน่าเบื่อหน่ายอย่างที่เขาว่ากันขนาดนั้น เรื่องราวมันพอรับได้ สนุกและสร้างความบันเทิงเริงใจได้ดี อีกอย่างมันก็เป็นรสชาติที่ถูกปากคนไทยดี เราคุ้นชินกับเรื่องราวลักษณะนี้ เนื้อหาทำนองนี้มานาน อาจไร้ซึ่งคุณค่าทางโภชนาการ แต่ทว่าอิ่มและอร่อย

แต่ถ้าจะให้เปลี่ยนได้จริงๆ- ไม่ต้องแก้พล็อตเรื่องหรือเนื้อหาหรอก เพียงแค่เปลี่ยนตัวโกงหน้าเดิมซ้ำๆ ที่น่าเบื่อหน่ายเห็นแล้วน่าส่ายหัวบางตัว (ซึ่งมีหลายตัว) ออกไปบ้าง มันคงน่าติดตามกว่านี้เยอะเลย ทั้งในละคร

(เพลงจบพอดี- ทีวีตัดเข้าข่าวสารบ้านเมือง)

และใน...

3 comments:

Anonymous said...

ห้องเช่านี้ ดูเก๊า เก่า เนอะ พูดไปได้ กลับห้องเช่า

Anonymous said...

บรรยายซะบ้านมึงโครตตตตตบ้านนอกเลยว่ะ

Anonymous said...

เอ่อ...และใน...ไรครับ