12/25/2009

สหวีหวี่ wiz U a mERRy X'mas~*


ไม่แน่ใจนักหรอกนะครับ ว่าเป็น FM หรือ AM
คลับคล้ายคลับคลาว่าน่าจะเป็น FM
แต่แม่นยำในตัวเลขว่าคือคลื่น 101.05 MHz
ช่วงปีใหม่นี้ถ้าใครได้มีโอกาสได้ไปแอ่วแถวแม่ริม เจียงใหม่
แล้วมีบ่ายที่แบบว่าว่างๆ ไม่มีอะไรทำ
และมีวิทยุอยู่ในระยะมือเอื้อมถึงโดยที่ไม่ลำบากมากนัก
ลองหมุนหน้าปัดวิทยุไปยังคลื่นวิทยุชุมชนที่ผมบอกดูสิ
แล้วคุณจะพบกับความหรรษาเล็กๆ สไตล์ “อ้ายหนุ่มเอวบาง” เขา
ว่ากันว่าสไตล์การจัดรายการของคุณพี่เขานั้นสุดแสนจะกระชากใจ (รวมถึงวัย) บรรดาแม่อุ๊ยแถวนั้นแบบผูกขาดมาหลายต่อหลายปีดีดัก

จากนั้นคุณจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าทำไมเจียงใหม่ถึงมีเสน่ห์
และมัดใจใครต่อใครให้หลงฮักมานักต่อนักแล้ว
โดยเฉพาะพี่ปุ๊

We wish you a Merry Christmas,
We wish you a Merry Christmas,
We wish you a Merry Christmas and a Happy New Year.


สุขสันต์วันคริสต์มาสครับ



เอ้า! เอาของขวัญไปหนึ่งเล่ม ทำไว้ยามว่าง
เป็นหนังสือรวบรวมภาพในแบบของผมที่ถ่ายไว้ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา
เชิญชิม!!

โฮ่-- โฮ่-- โฮ่--

12/22/2009

6ix_xhop


ภาพเดียวจากงานเมื่อวันอาทิตย์

1) ต้องเล่นของเพื่อเรียกลูกค้ากันหน่อย
โอมจงลง.. เอ้ย! ชินเมโจได๊..
2) อกร่องลอยเคว้งคว้างรอคนมาสอยอยู่ใต้ต้นลำพู
จนฝรั่งแถวนั้นอดสงสัย และไต่ถามไม่ได้ว่านี่มันต้นมะม่วงหรือเปล่า
3) เยโล่นั้นโก้จริงๆ แต่แด่ดแต่ดแต๊ดแต่นแต้แดแด่ด..
4) ดอยไปดอยมาแอบนอนนิ่งๆ คอยคนมาอุดหนุน
5) โปสการ์ดส่วยๆ มีมากมายหลายหลากรูป
?) ???

ขอบคุณ exteen และทุกๆ ท่านที่แวะไปสนับสนุนนะครับ

^_^

12/17/2009

อกร่องอรทัย


สวัสดีธันวาคม

อาทิตย์ที่ผ่านมาถ้าใครได้แวะเวียนเข้ามาเยี่ยม blog นี้ก็คงได้ผ่านตาไปบ้างแล้วกับโปสเตอร์งานสีสรรกรุงเทพฯ ที่ผมเอามาแปะหราคาไว้อยู่หลายวัน เพื่อเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับงานเขา

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะว่าผมกำลังจะไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานกับเขาด้วย

งานสีสรรกรุงเทพฯ ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ (20 ธันวา 52) จัดขึ้นสำหรับเยาวชนไทยคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Creative People Make Creative City” ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักๆ 2 ส่วน คือ ส่วนของสาระทางวิชาการ (Forum) และส่วนของพื้นที่ความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชน (Event) โดยมีเป้าหมายให้เยาวชนนั้นคิดแล้วลงมือทำสิ่งต่างๆ เพื่อการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ด้วยความสามารถที่มีอยู่ของตนเอง
งานนี้จัดที่บริเวณสวนสันติชัยปราการ และอาคารโรงพิมพ์คุรุสภา ท่าพระอาทิตย์

ทีนี้วัยรุ่นจำแลงอย่างผมก็ได้พื้นที่เล็กๆ ขนาด 2 X 2 เมตรมา บูธหมายเลข E6 โดยการสนับสนุนอย่างไม่เป็นทางการนักจาก ด.ญ. ณัฐกฤตา คนเดิม (สาวลูกครึ่งไทย - ญี่ปุ่นดินแดง คนที่เป็นแบบสวมใส่เสื้อป่วยๆ ทั้ง 2 รอบของผมนั่นแหละ ถ่ายรอบนี้เธอดูเซ็กซี่ขึ้นหน่อยนึง ว่ามั้ย?^^ )

ก็เลยจะขนเอา ‘ของ’ ที่มี ไป ‘ปล่อย’ ในงาน
ในความหมายเดียวกันกับ ‘ขาย’ นั่นแหละ
ทั้งของเก่าที่มี และก็ที่ทำขึ้นใหม่สำหรับงานนี้โดยเฉพาะที่ชื่อชิ้นงานว่า “อกร่อง”!!!

ของเก่าดั้งเดิมก็จะมี “ดอยไปดอยมา” ซึ่งจะหมดวาระภายในงานนี้แล้ว,
“เยโล่” และ (น้องด้วง) “ตัวฤทธิ์”
ส่วนของใหม่เอี่ยมอ่องอรทัยในนาม “อกร่อง” ก็จะเป็นเสื้อยืด และ สมุดโน้ต
นอกจากนี้ก็จะมีโปสการ์ดคัดสรรจากรูปที่เคยถ่ายๆ ไว้ให้ได้จับได้จองได้จดได้จ้อง และได้จับได้จ่ายกันอีกด้วย มีคนบอกว่าผมถ่ายรูปส่วย คือ กึ่ง ‘สวย’ กึ่ง ‘ห่วย’ จะจริงมั้ยต้องลองมาดูกันเองนะครับ (ฮา)

คราวนี้ไม่ต้องไปแอบหรือฝากเขาขายเหมือนครั้งก่อนๆ แล้วครับ
งานผมเอง คิดเอง, ทำเอง, ถ่ายเอง, เขียนเอง
และก็กำลังจะไปขายเอง

พูดถึง “อกร่อง” หน่อย
มันเกิดจากความสัปดนระคนทะเล้น และขี้เล่นของผมเองล้วนๆ ที่นึกติดใจคำว่า “อกร่อง” และอยากเอาคำๆ นี้มาวางพาดบนอกของผู้สาว (แต่ผู้บ่าวก็ใส่ได้นะ) ซึ่งก็คงเป็นอื่นใดไปเสียไม่ได้นอกจากเสื้อยืด

เห็นแล้วน่าจะทำให้อมยิ้ม และนึกหมั่นไส้ อยากจะเข้าไปหยิกแก้มสักที
แต่จะน่าซื้อหรือไม่นั้นอีกเรื่อง (ฮา)
ตัวผมเองมีความคิดว่ามันรู้สึกได้ในเรื่องของคำกำกวม
ซึ่งเป็นอารมณ์ขันแบบไทยๆ ดี

เว่ากั๊นซื่อๆ คือ “กวนตีน” ดี

นึกแบบนี้แล้วก็เลยตามเลยทำเลย
ก็ทั้งๆ ที่รู้ทั้งรู้นั่นแหละครับว่าน้องด้วง ตัวฤทธิ์ ยังออกฤทธิ์ทำรายได้แบบถล่มทลายความมั่นใจในชิ้นงานอย่างต่อเนื่อง (และก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด!) แล้วผมก็ยังดันทำคลอด “อกร่อง” มาขายอีก
เรียกว่า “ความด้วงยังไม่ทันหาย เอาผลไม้เข้ามาแทรก”
ตามสำนวนไทยเปี๊ยบ (ไม่ฮา)

Que sera sera.. ก็ว่ากันไปนะครับ
ผมก็ทำไปเรื่อยแหละ ตราบเท่าที่ยังไม่ล้มหมอนนอนเสื่อ

ยังไงถ้าว่างๆ กันก็เชิญที่งานนะจ๊ะ

.........

ป.ล. ในงานมีของขายมากกว่าที่เห็นอีกนะ

12/01/2009

วัดขนอนหนังใหญ่









คุณควรดูวงดนตรีโปรดของคุณเล่นสดอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต
และคุณควรซื้อเสื้อยืดที่ระลึกของคอนเสิร์ตนั้น ไม่ว่าราคาจะแพงแค่ไหนก็ตาม
เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณสวมมัน คุณจะนึกถึงค่ำคืนนั้น ช่วงเวลานั้น
ที่คุณได้มีส่วนร่วมอยู่ในบางสิ่งที่พิเศษมาก บางสิ่งที่คุณไม่ควรลืมมัน
และคุณจะไม่ลืมมันตราบเท่าที่คุณยังเป็นเจ้าของเสื้อตัวนั้น
อีกหลายๆ ปีต่อไปเมื่อคุณเจอเสื้อตัวนี้ในตู้เสื้อผ้า คุณจะจำมันได้
ไม่ใช่จำว่ามันมีราคาเท่าไหร่..

แต่จำได้ว่ามันมีค่าแค่ไหน

.........

คัดมาจากช่วงหนึ่งจากบทสุดท้ายในหนังสือ “ดาวหางเหนือทางรถไฟ”
ของคุณทรงกลด บางยี่ขัน ที่แนะนำไปเมื่อเดือนที่แล้ว
เป็นหนังสือบันทึกการเดินทางที่อ่านสนุกมาก!

11/19/2009

ใครใคร่ค้าม้าค้า


อย่างไม่ต้องอ้อมค้อมเลยนะ
ทำเสื้อยืดมาขายครับ!

เป็นโปรเจกซ์ส่งท้ายปี 2009 ชื่อว่า เสือ – เสื่อ– เสื้อ”
(หนึ่งในโครงการยังชีพ ต่อจาก “ดอยไปดอยมา” และ “YELLOW”)
งานนี้ไม่เกี่ยวกับเสือ หรือเสื่อ
เพราะมันเป็นเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวสกรีนด้วยลายกราฟิกด้วงกว่างเท่ๆ สีชะอุ่มแนบหราอยู่บนหน้าอก แบบ limited edition
บอกตรงๆ ว่าขายเอาจริงเอาจังและกะเอาตังค์เป็นกอบเป็นกำกันเลยทีเดียว
เพราะจำหน่ายในราคาที่สามารถก่อร่างสร้างเนื้อสร้างตัวกันได้เลยที่ 180 บาทไทยถ้วน แบบเหมารวมค่าจัดส่งทั่วไทยกันไปเลย

จะอยู่ใกล้ หรืออยู่ไกลก็ขอให้บอก
จะอยู่เมืองนอก หรือนอกเมืองก็มิมีปัญหา
จะอยู่แถวพัทยา หรือพาต้า ก็อย่าได้กังวลไป
จะอยู่มหาชัย หรือสุไหงโกลก กรุณาลืมเสียเถิด ไอ้เรื่องที่ว่าจะเกรงอกเกรงใจ
จะส่งให้แน่แท้ – ทันที – ที่ท่าน – ชำระเงิน ^^

เสื้อเป็นไซส์ S ไซส์เดียวเพียวๆ ไม่มีเอี่ยวกับ M
ไหล่กว้าง 15 นิ้ว, อก 18 นิ้ว, ความยาว 25 นิ้ว
ถ้าสน (ลายที่อยู่บน) อกสนใจก็ติดต่อกันมาได้ที่ 081.377.1037
แล้วขอสายคนขาย
หรือจดหมายฯ มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ teerujung@hotmail.com
ติดต่อ (และสวมใส่) ได้ทุกวัน ตั้งแต่จันทร์ยันอาทิตย์

.........

เหตุผลประกอบการตัดสินใจ :
รายได้ทั้งหมดจากการจำหน่าย ทางผู้จัดจะนำไปสมทบทุนค่าบัตรคอนเสิร์ต GREEN DAY LIVE IN BANGKOK 2010 (บัตรยืน) หลังจากที่ได้ไปเชื่อคุณ hypothesise (ภาคีหนึ่งเดียวที่จะเข้าร่วมวาระวายป่วงในช่วงต้นปีหน้า) ไว้ก่อนตอนจอง และสำรองเป็นทุนรอนไว้สำหรับจัดทำโปรเจกซ์ต่อไป
และต่อไป...

11/16/2009

GREEN DAY



@@@@@@@@@@@@@@@@@— @—
แอดแอดแอดแอดแอดแอดแอดแอดแอด แอ๊ด แอ๊ด!!!

I LUCKin FOVE GREEN DAY!!!
ฉันและอาเฮียชอบวงนี้มากค่ะ!!!

@@@@@@@@@@@@@@@@@— @—
แอดแอดแอดแอดแอดแอดแอดแอดแอด แอ๊ด แอ๊ด!!!

11/10/2009

ศรัณย์เฮโย

"เมื่อสองสามวันก่อนกูตื่นมา แล้วก็เดินไปเปิดหน้าต่างห้องนอน โดนลมหนาวงี้กระแทกหน้าเข้าอย่างจัง แต่แปลกเว้ย กูกลับไม่รู้สึกเจ็บหรืออะไรว่ะ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง กูเลยหันกลับไปมองบนเตียง เห็นณีนอนอยู่กูถึงได้เข้าใจ...
ดูท่าว่าหน้าหนาวปีนี้กูคงไม่หนาวเสียแล้วว่ะเพื่อน ฮ่า ฮ่า"


ไอ้รัณมันว่าอย่างนั้น
เรียกเสียงหัวเราะระลอกใหญ่ในคืนที่เรากำลังร่ำสุราเบาๆ อยู่ใต้ต้นขนาดย่อมๆ ของกันเกลาตรงชานบ้านหลังที่มันกับณีร่วมด้วยช่วยกันปลูกสร้าง
และก็เป็นหลังเดียวกันกับที่คนทั้งสองนั้นใช้เป็นเรือนหอ
เพลินเขาล่ะ

.........

ศรัณย์สละโสดไปแล้วในวัย 29 ปี 2 เดือน
เจ้าสาวแสนสวยผู้โชคดีที่เพิ่งได้ชายผู้มีชื่อแปลได้ว่า ‘ที่พึ่งได้’ เพื่อนผมไปครอบครองเป็นคู่ครองโดยความสมยอมของมันเองมีชื่อว่าดรุณี
ระยะทางความรักของทั้งคู่ก่อนจูงมือกันลั่นระฆังวิวาห์บันทึกสถิติไว้ที่ 10 ปี…

สิบปี!!!

10 ปีนานแค่ไหน
วัดเอาจากตัวเองเป็นเกณฑ์
10 ปีมานี่ผมโละชุดความคิดทิ้งไปหลายชุด ปรับและเปลี่ยนมุมมองต่อสิ่งต่างๆ รอบๆ ข้างไปหลายขนาน
ชุดความรู้ความเข้าใจใหม่ๆ จากการศึกษาทั้งในและนอกตำรา และประสบการณ์ต่างๆ ที่เข้ามาในช่วงชีวิตระหว่างนั้นเป็นเครื่องมือในการช่วยถอดถอนเอาใจที่เคย ‘ปัก’ ลงกับความเชื่อและความเข้าใจเก่าๆ ต่างๆ ออกอย่างช้าๆ
ความคิดอ่านของผมในวันนี้แตกต่างจาก 10 ปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
โดยเฉพาะกับ ‘ความรัก’
อย่างเท่าที่พอจะเข้าใจ
มันถูกกลั่นและกรองเอามุมในการมองความสัมพันธ์แบบเดิมๆ ไปจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม
ปัจจุบันผมมีความเชื่อที่ว่าใครก็ตามที่วู่วามในความรักมักวอดวาย
เพราะเท่าที่เห็น (ด้วยความเคารพ— ขอย้ำว่าเท่าที่เห็น) มีน้อยกว่าน้อยที่คบกันยืดยาวเกิน 4 ปี

โดยที่ไม่ต้องตรวจคำตอบหรือทดสอบสมมุติฐานให้เสียเวลา
ชีวิตรักที่คงมั่นกว่าทศวรรษของศรัณย์นั้นได้บอกบางอย่างกับแขกเหรื่อที่ไปร่วมเป็นสักขีพยานในวันงานวันนั้นอย่างล้นเหลือด้วยตัวของมันเอง
ผมว่าความซื่อสัตย์และแน่วแน่ในความรักนั้นสำคัญอย่างยิ่งยวดในการขับเคลื่อนชีวิตคู่ให้คงทน

คนเราจะมั่นคงและจงรักภักดีกับความรักได้นานแค่ไหนกัน
4 ปีกับ 10 ปีนั้นมันคนละเรื่อง

ผมนึกถึงคำกล่าวของเพื่อนอีกคนที่เคยประกาศ (กร้าว— อย่างสุภาพชน) ในวันแต่งงานในวัยที่เพิ่งจบ ม. ปลายหมาดๆ และมีเสียงคัดค้านทัดทานจากผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างหนาหูว่า “เร็วเกินไป”
คำที่เพื่อนผู้เป็นเจ้าบ่าวกล่าวบนเวทีในวันงานวันนั้นก็คือว่า จะช้าจะเร็วนั้นไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรเลย เพราะยังไงๆ เสียแล้วก็ต้องเป็นคนนี้

ยอมรับว่าตอนนั้นผมไม่ประสาในเรื่องรักนัก จึงฝักใฝ่ในฝ่ายค้าน ไม่มั่นใจในรักของบ่าวสาว
จริงอยู่ ที่ว่าเวลาไม่เคยช่วยอะไรใคร (เลย)
และความรักก็เป็นเรื่องของคนสองคน (หรือ?)
คนที่เคยแน่วแน่และเชื่อในรัก ณ ขณะนั้น เท่านั้นจึงจะซึ้งทราบ
ผมเดาเอาว่าเจ้าบ่าวคงคิดอย่างนั้นจริง และอิงกับรักปักใจ
แต่เรื่องการ ‘ยืนระยะ’ นั่นก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ และจะหลงลืมไม่ได้เช่นกัน

ความสัมพันธ์เป็นเรื่องเปราะบาง
ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งเปราะขึ้น และยิ่งบางลง
โดยเฉพาะกับความสัมพันธ์ในยุคสมัยที่ไร้ซึ่งโทรเลข
เท่าที่ทราบ (ด้วยความเคารพอีกครั้ง— ขอย้ำว่าเท่าที่ทราบจริงๆ) ส่วนมากเป็นลักษณะความสัมพันธ์แบบชิลล์ชิลล์ผิวเผิน
เหมือนพลุ
ตื่นตาจุใจในช่วงแรก ทว่าไม่ช้าไม่นานก็จางหายสลายไปกับลมฟ้าอากาศ

ความรักของศรัณย์และดรุณีไม่ใช่พลุ แต่เป็นเหมือนต้นไม้
และก็น่าจะเป็นพรรณไม้ประเภท ‘ไม้มงคล’
เหมือนต้นกันเกลาที่ปลูกให้ร่มเงาอยู่หน้าเรือนหอของทั้งสองนั่นแหละ
ต้นไม้จะเติบโตได้นั้นต้องหมั่นคอยดูแลรักษา และเอาใจใส่กันและกัน
ค่อยๆ ทะนุถนอมและประคับประคองอย่างสม่ำเสมอ
ต้องรดน้ำ, พรวนดิน, ต้องรดน้ำ, พรวนดิน, ต้องรดน้ำ
และก็ยังต้องรดน้ำอีก และพรวนดินอีก
ตัดแต่งทำความสะอาดกิ่งก้านใบและใส่ปุ๋ยกันอยู่หลายเดือนปี
เมื่อในยามที่ไม้ต้นนั้นเติบใหญ่สมบูรณ์แข็งแรง
มันจะผลิดอกออกใบสดสวยช่วยสร้างร่มเงากันแดดลมให้แก่ที่อยู่อาศัย และเสริมส่งความเป็นสิริมงคลกับชีวิตคู่ให้งอกเงยงดงาม
ขจรกลิ่นหอมหวลอบอวลในทุกวี่วัน

รักของศรัณย์มันเป็นอย่างนั้น

10/27/2009

ตุลา - คารวะ

คุณนู๋ และร้าน Brunch Coffee & Bakery สำหรับผนังปูนเปลือยที่ช่วยปลดปล่อยปริศนาแห่ง "เย่โล่" / พี่เหน่ง และน้องๆ ที่ร้าน "ไหน" สำหรับคำแนะนำนิ่งๆ และความคิดเห็นแนวๆ / djbeing, ตากล้องสายแชท, co7de, tidsee, choice, hs2uje, oFFing, focus - 32 และสมาชิก CHANPIX's ทุกท่าน / พี่นิศ และร้านร่มทองหลาง สำหรับค่ำคืนมหัศจรรย์คืนนั้น มันเสนาะมาก โดยเฉพาะเสียงไวโอลิน / ทุกๆ ท่านที่แวะเวียนมาเยี่ยมชมนิทรรศการ "yellow" และคอมเม้นท์ที่ฝากไว้ / คืนวันและฟ้าฝนฉ่ำๆ ที่จันทบุรี / อ. วินัย และพี่นเรศร์ จาก 4toart group สำหรับ workshop เจ๋งๆ ที่โพธาราม / บูธ Q 38 C2 สำหรับสัปดาห์แห่งการขาย / OTORI, babyshamPOO และ Pinky Bear สำหรับการเป็นห่วงอยู่ห่างๆ และการสนับสนุนอย่างสม่ำเสมอ / ไวรัลยา / im KiMZa / ซ้ายฟ้าสั่ง (มาให้รักเธอ) / DMC 1306 / ณิชา / พันจัง / ฉัตรและอี้ (ออกเสียงยากนะคู่นี้เนี่ย คนแรกออกเสียงห้วนไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่าเป็นคำด่าเอาจากคนลิ้นไก้สั้น คนหลังต้องแยกแยะพยัญชนะและวรรณยุกต์ให้ดีก่อนที่จะผันให้แม่นอีกนิดหน่อย) / ครูเม และกลุ่มสัญจร 7 / WOM family / พี่จ็อก และบูธวารสารหนังสือใต้ดิน / พี่อี๊ด และบูธคมบาง / พี่จี และบูธ mar / อ้อแอ้ / ทุกๆ ท่านที่ช่วยอุดหนุน "ดอยไปดอยมา" และ "เย่โล่" / บ้านเนิบ สำหรับที่นอนนิ่มๆ (อีนี่แต่ไม่ค่อยจะนุ่มนักนะจ๊ะนายจ๋า..) / จอย & เอ สำหรับงานแต่ง และความรักที่สวยงาม / พี่ป้าน้าลุงและพ่อแม่ กับครอบครัวที่อบอุ่นเสมอ / ด.ญ. ณัฐกฤตา สำหรับแบบเรียน สปช. เล่มสีส้มอมชมพู

และอีกหลายๆ ท่านที่กำลังอ่านอยู่
ขอบคุณมากครับ

10/14/2009

6IX IN THE CITY


โย่ว!

ช่วงนี้ชีวิตสัญจรบ่อย เลยไม่ค่อยได้ออนไลน์
งานนิทรรศการที่จัดที่จันทน์ (จันทบุรี) ก็เป็นไปได้ด้วยดี
มีเสียงตอบรับในช่วงแรกเป็นที่น่าพอใจ หลายคนบอกชอบ- เพราะไม่เคยมีใครนึกครึ้มอกครึ้มใจจัดอะไรในวันครึ้มฟ้าครึ้มฝนแบบนี้บ่อยๆ
ไว้จะเอาภาพบรรยากาศมาแปะให้ชมกัน สำหรับใครที่ไม่สะดวกลงไป
ช่วงเวลาที่เหลือจากนี้เลยปล่อยให้ตัวงานทำหน้าที่ของมันไปตามที่ควรจะเป็น

ในวาระงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 14 ซึ่งจัดขึ้นช่วงวันที่ 15 - 25 ตุลาฯ นี้จึงแว่บเข้าเมืองมารับงานออกบูธขายสื่อการเรียนการสอนเหมือนเช่นครั้งก่อนๆ เป็นเวลาสี่ซ้าห้าวัน (15 - 20 ตุลาฯ)
โอกาสงามๆ แบบนี้ก็ไม่พลาดที่จะเหน็บนำเอาผลผลิตที่ทำๆ ไว้ไปแอบจำหน่ายดังเดิม ทั้ง "ดอยไปดอยมา" ที่ยังขายไม่หมดเสียที (>_<) นั่นหนึ่ง

ลำดับต่อมาคือ "เย่โล่" หนังสือทำมือเฉพาะกิจจากงานนิทรรศการ YELLOW อันนี้แบ่งมาจากงานที่จันทบุรี

และล่าสุดกับผลงาน..
ที่เยยไม่คัง..
ที่ยังไม่เคย..
(จะผวนทำไม -_-")
เผยแพร่แบแผ่..
ที่ไหนมาก่อน..
กับ..

"ตัวฤทธิ์" (อิ๊ด..อิ๊ด..)

ตัวฤทธิ์ คืออะไร? (วะ)
Q 38 โซน C 2

.........


ป.ล. แนบภาพเบื้องหลังการติดตั้งงาน "yellow" ที่จันทน์มาด้วยหนึ่งภาพ
เอื้อเฟื้อภาพถ่ายโดย djbeing เทพจากชมรม CHANPIX

10/01/2009

YE_LO_


สวัสดีเดือนตุลา

(หลังจากที่เงียบหายไปพักหนึ่ง ก็) มีโปรเจ็กต์เล็กๆ มาบอกเล่ากันเล็กน้อย
คือในช่วงตั้งแต่วันที่ 12 – 24 เดือนนี้จะมีแสดงงานที่จันทบุรีครับ

ชื่อโปรเจ็กต์ว่า "yellow"
เป็นนิทรรศการแสดงภาพถ่ายเล็กๆ ขนาดกำลังเหมาะ
จัดที่ร้าน brunch coffee & bakery ใกล้ๆ กับสถานีขนส่งจังหวัด
ร้านสังเกตง่าย ตัวร้านตั้งอยู่บนเนินริมถนนเลย จะอยู่ทางซ้าย หากตรงจากขนส่งขึ้นไปทางโรงเรียนสฤษดิเดช (เค้ก และ กาแฟที่นี่อร่อยมากกก! อยากให้ลอง)

ภายในงานก็จะมีภาพที่ถ่ายไว้ตอนไปเที่ยวเมือง “ฮอยอัน” ประเทศเวียดนาม เมื่อหลายปีก่อน
จัดขึ้นด้วยใจหมายอยากแบ่งปันและบอกเล่าความสวยงามของเมืองสีเหลืองให้ได้ยลกันในวันที่ฝนฟ้ายังเซาซึม

นอกจากนั้นแล้วก็จะมีหนังสือทำมือเฉพาะกิจการงานนี้ชื่อ "เย่โล่"
จำนวน 40 เล่มไว้จำหน่ายประกอบเพื่อให้นิทรรศการสมบูรณ์ขึ้นด้วย
ขอบอกว่าตัวหนังสือนี่ช้าอดหมดจริงๆ นะ

ใครว่างๆ ก็มาดูสิ
แล้วเจอกันฮิ

.........

Hello October!

brunch cafe' featuring 1306ix proudly to present “yellow”
(Somethin’ still remain)
My first little solo photo showcase

The exhibition will show my photos those I took from Hoi- An city,
the beautiful city in Vietnam few years ago
And they were all yellow

Exhibition will runs from 12 till 24 October 2009
At brunch café Chanthaburi (near teminal)
10 am. to 9 pm. Monday – Saturday
Close Sonday
(Look! Cake and coffee here very tasty!)

Come whenever you free

Regard,

.........


ป.ล. สำหรับเด็กมหิดลฯ รุ่น 6 ยังจำวลี "เย่โล่" กันได้ไหมเอ่ย^^