2/17/2010

อีเต

คำบางคำของแม่มาแหย่หูผมเมื่อครั้งกลับไปบ้านสวนหลายเดือนก่อน
มันเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันอาทิตย์ที่สุดแสนจะอ้อยอิ่ง
ลมร้อนเพพัดเอื่อยเฉื่อยเหมือนขี้เกียจจะพัด
ผมนอนอ่านหนังสืออยู่ตรงชานบ้าน
กับคำที่ว่านั้น คำที่ผมติดใจและอยากเล่าให้คุณฟัง
พอได้ยินปุ๊บมันเหมือนกับใครมากดปุ่มเปิดบางฉากในอดีตที่ถูกซุกแทรกไว้ในหลืบรอยหยักภายในหัวของผมออกมาฉายเป็นช่วงสั้นๆ

ภาพของกลุ่มเด็กประถม 4 – 5 คน ลักษณะกึ่งโยนกึ่งเขย่งอยู่ข้างรั้วโรงเรียนยามเย็น กำลังละเล่นกิจกรรมบางอย่างเพื่อฆ่าเวลารอรถโรงเรียนคันโตบุโรทั่งมารับพวกเขากลับบ้าน

เท่าที่เห็นจากภาพที่ฉายอยู่ในหัว
ไม่มีโทรศัพท์และเกมส์กดภายในมือเด็กหัวเกรียนเหล่านั้น
มีเพียงแต่ตัวตุ๊กตุ่นจำพวกซูเปอร์ฮีโร่ขนาดฝ่ามืออยู่ในกระเป๋าเสื้อ, กระเป๋ากางเกง และในมือเด็กๆ เหล่านั้น

“ตานี้มึงเสร็จกูแน่ ไอ้เตี้ย”
นั่นเสียงไอ้เบ็นซ์- ลูกชายผู้ใหญ่โต แห่งหมู่บ้านหนองบัว เพื่อนตัวใหญ่ผิดมนุษย์มนาของผมเอง
มันกำลังทับถม และขู่ผมอยู่
“โดนอีเตกูตัวนี้กูแดกมึงหมดตูดแน่”
แล้วมันก็เยาะเย้ยผมด้วยเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่ง

“อีเต”
นั่นคือคำที่ผมต้องการจะบอกคุณ
คำที่เป็นเหมือนปุ่มฉายภาพการเล่นทอยเส้นของผมกับเพื่อนๆ สมัยประถมในเย็นวันนั้น
ผมไม่แน่ใจว่าคำนี้มันมีที่มาจากไหน และแปลว่าอะไร
แต่อีเตสำหรับผมแล้วมันเหมือนหยดน้ำฉ่ำเย็นที่มาชโลมชีวิตในวัยไขข้อเสื่อม
สาบานได้ว่าหลังจากช่วงวันที่ผมกับเพื่อนเล่นทอยเส้นกันนั้น คำว่าอีเตไม่เคยได้แผ้วพานผ่านเข้ารูหูของผมอีกเลยจวบจนบ่ายวันอาทิตย์ในวันเวลาที่ตัวเลขระบุขวบปีเดินทางมาถึงครึ่งหนึ่งของอายุขัย

ด้วยวัย—คนวัยนี้ก็ไม่ควรจะหวั่นไหวกับอะไรง่ายๆ แล้ว จริงไหม
แต่หลังจากภาพที่ว่าฉายจบลง ผมก็เริ่มมีน้ำตาคลอ
ผมคิดถึงไอ้เพื่อนอ้วนคนนั้น
คิดถึงไอ้เบ็นช์มัน
ทั้งๆ ที่เคยแดกดัน และกลั่นแกล้งผมอยู่เป็นนิจ
แต่พอคิดๆ ดู ไอ้เบ็นซ์มันก็ทำให้ผมสนุกสนานมากกับชีวิตช่วงนั้น
เป็นมิตรภาพในอีกรูปแบบหนึ่ง
แบบที่ผมนั้นเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ตลอดเวลา
อาจฟังดูแปลกๆ แต่ในความเจ็บนั้นมีความสุข
เป็นความสุขแบบฝังใน
ความสุขที่ต้องการวันเวลาในการเพาะบ่ม
และเมื่อไหร่ เมื่อใดที่มี “คำพิเศษ” บางคำมากระทบถึง ในวันเวลาที่เหมาะควร
สิ่งที่ถูกบ่มออมมาอย่างยาวนานนั้นก็จะทลายกำแพงแห่งความทรงจำที่กั้นกักอยู่ และไหลบ่าออกทางตา อาบไล้ไหลรินสร้างความชุ่มชื้นให้พวงแก้มที่ค่อนข้างตอบลงตามกาล

น้ำตาเหล่านั้นได้บอกเล่าเรื่องราวในอดีตได้อย่างสมบูรณ์แล้ว

2/11/2010

no9to5 in BMMF








งานนี้ส่วนใหญ่จะวนๆ เวียนๆ นั่งๆ ดื่มๆ อยู่แต่ที่บูธ no9to5
(เราตกลงใช้ชื่อบูธกันว่า no9to5)
เลยไม่ค่อยมีภาพบรรยากาศงานมาฝาก
เพราะก็ถ่ายเล่นเอาแต่ที่บูธ โน่น-- หลังเที่ยงคืนถึงได้ไปเดินเที่ยวงาน
งานสนุกสนานดี แต่ตอนกลางวันร้อนมากเหอะ จะบอก -*-

2/02/2010

เชียงใหม่ 39 Hrs


1) ช่วงเช้า : นั่งชมนกชมไม้รอคุณ Real อยู่ที่เกสเฮ้าส์


2) แตงโมโตแล้ว : ไม่ได้แวะมาที่นี่นาน น้องแตงโมกำลังซนเลย^^


3) กอกล้วยประกาย ณ เชียงใหม่ : เฉดสี และแสงสวยดี


4) แว้น! : นั่งอยู่บนตุ๊กตุ๊ก หันไปถ่ายทีมงานทั้ง 2 ท่านที่กำลังแว้นตามไปงาน


5) เย็นย่ำ : บรรยากาศภายในงาน ถ่ายจากบูธตัวเอง


6) ฮิปฮอบล้านนา : คุณแบงก์- ซี้เก่าที่มาร่วมแจมในงานครั้งนี้

งานนี้แม้มีเวลาเพียงสั้นๆ ที่นั่น แต่มันดี ^^