5/17/2013

อยู่ชั่วคราว ฮานอย

คงเพราะเป็นบ่ายวันธรรมดา ที่สถานีรถไฟจึงไม่วุ่นวายเท่าไหร่ เช็กอินเข้าที่พัก เก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยเราก็เดินไปหาซื้อตั๋วไปหล่าวไคเที่ยวสามทุ่มสิบนาทีสำหรับสองที่ คืนแรกคืนนี้เราจะนอนบนรถไฟกัน ราคาที่ได้ถูกกว่าจองผ่านนายหน้าจริง ๆ อย่างที่ผมคาด

ได้ตั๋วแล้วเราก็เดินต่อไปหาบุ๋นฉ่าที่ผมเพรียกหาด้วยความหวัง ผมจดแผนที่ร้านไว้ในสมุดบันทึก เราเดินกันไกลพอดู หลุดเข้าไปในย่านเก่า ผ่านร้านขายของสารพัด ผ่านสระขนาดย่อมกลางเมืองแห่งหนึ่ง ผ่านร้านกาแฟหอมฉุยสองสามร้าน คุยกันว่าขากลับค่อยแวะกินกาแฟเวียตกันสักหน่อย เรามีเวลาที่จะอ้อยอิ่งกันอย่างเหลือเฟือกับฮานอย แต่จนถึงตอนนี้ฝนที่ตกก็ยังคงโปรยปรายอยู่ตลอดเวลา รองเท้าของเราก็ยิ่งฉ่ำขึ้นเรื่อย ๆ เพราะย่ำน้ำไม่หยุด กายบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้หนทางข้างหน้าของเราท่าจะย่ำแย่ เพราะในการเดินทางไกลนั้น สองเท้าของเราต้องพร้อม และต้องรู้สึกมั่นใจในทุกย่างก้าวเสียก่อน


ร้านที่ตั้งใจจะไปเราหากันไม่เจอ แต่ใกล้ ๆ นั้นมีร้านบุ๋นฉ่าเหมือนกัน เห็นคุณป้าและเจ๊ลูกมือกำลังตั้งท่าจะเก็บร้านพอดี เราเลยร้อง “ซินจ่าว” ทักทายไป จากนั้นนั่งลงและทำมือขอลอง จะได้ไม่เสียเที่ยวที่เดินหากัน

อย่างที่สังหรณ์ไว้ลึก ๆ เลย พอคาดหวังกับการกลับมาของรสชาติในอดีตไว้เยอะก็ต้องผิดหวังพังทลาย บุ๋นฉ่าของเรารสชาติเลวร้ายสุด ๆ นอกจากหมูจะไม่ร้อนแล้วเส้นยังเย็นเจี๊ยบ! แถมยังรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นหมูหวานที่หลงเข้ามาให้ป้าเจ้าของร้านแกเชือดอย่างไรไม่รู้ ฝนที่ตกลงมามีผลไม่น้อยเลย จะโทษฝนโทษฟ้าหรือตำหนิความคาดหวังของตัวเองดีเนี่ย แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สุดท้ายเราก็ต้องฝืนกินกันอย่างพะอืดพะอมด้วยความหิวเพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย นี่ก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายสามโมงแล้ว ยังดีที่หลังจากนั้นได้กาแฟเวียตในขากลับแก้ตัว ฉุดเราให้ขึ้นมาจากขุมนรกอันเปียกชื้นและเย็นเยียบนั่นได้


กลับมาที่พักอีกทีช่วงเย็น กายไม่ลืมที่จะยืมดรายเป่าผม เธอไม่ได้ตั้งใจจะเป่าผมหรอก แต่เรายังมีถุงเท้ารองเท้าอีกอย่างละสองคู่รออยู่ด้วย วิเศษ! ความพิเศษของนวัตกรรม เราผลัดกันเป่ารองเท้าถุงเท้ากันอย่างตั้งอกตั้งใจเป็นเวลานานทีเดียว พรุ่งนี้เราจะเข้าจีนแล้ว เราต้องการให้สองเท้าของเรามั่นใจไม่อับชื้น

เป่าจนแห้งดีแล้วเราก็ออกไปหา ‘เฝอ’ กินกันสำหรับมื้อเย็น เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงเวียตนาม ด้านนอกฝนหยุดตกแล้ว ร้านที่เราไปกินกันก็หาเอาง่าย ๆ ใกล้ ๆ ที่พักนั่นเอง “เดินทะลุตลาดเล็กๆ นี่ไปก็ถึง” พนักงานต้อนรับที่เกสเฮ้าส์บอกทางให้กับเรา อร่อยใช้ได้เลย เฝอร้อน ๆ หลังฝนตกหมาด ๆ นี่อร่อยเหาะไปเลย

เราเช็กเอาท์ แวะนั่งดื่ม ‘เบียร์ฮอย’ นับถอยหลังกัน โดยใช้อัตราความเร็วหนึ่งแก้วต่อห้านาทีคอยรถไฟออกที่ใกล้ ๆ สถานี นั่งดื่มมองดูท้องถนนของฮานอยยามค่ำคืน เด็กเสิร์ฟที่ร้านเมียงมองมาทางผมแล้วกระซิบกระซาบกับเพื่อนสาวที่เป็นผู้ชายของ ‘เธอ’ ซึ่งก็เป็นผู้ชายกันใหญ่ ใช่แล้ว— พวกเธอเป็นผู้ชาย กายแซวผมว่าคงถูกสเป็กกระเทยที่นี่ แต่ผมไม่ได้คิดอะไร ผมว่าพวกเธอน่ารักและเป็นมิตรดี คงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมานั่งร้านนี้เท่าไหร่ ผมเลยเล่นหูเล่นตากับพวกเธอไปขำ ๆ แล้วสั่งถั่วต้มมาเคี้ยวแกล้มเบียร์

ห้าแก้วผ่านไปก็ได้เวลาขึ้นรถ กระดกเบียร์แก้วสุดท้ายเสร็จเรายกเป้ขึ้นหลังแล้วเดินไปยังสถานีฯ โดยต้องเร่งฝีเท้าในการเดินกันเล็กน้อยเพราะเราติดลมกันนิดหน่อยที่ร้าน
พรุ่งนี้เราจะเข้าจีนกันแต่เช้า

..........