8/26/2008

ถ่ายสิคะ


ในภาษาญี่ปุ่นคำว่า “写真” หมายถึงรูปหรือภาพถ่าย อ่านออกเสียงได้ว่า “ชาชิน” ซึ่งเป็นคำที่ผมได้ยินบ่อยมากถึงบ่อยได้อีกในรอบปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เริ่มประกอบอาชีพช่างภาพให้กับนิตยสารญี่ปุ่น

โดยหากจะให้นิยามกับตัวเองแล้ว ก็ต้องขอเรียนว่าไอ้กระผมนั้นเป็นช่างภาพที่ออกจะผิดแผกแปลกต่างไปจากแบบที่ควรจะเป็นของช่างภาพทั่วไป จะเรียกให้รื่นหูหน่อยก็ต้องเรียกว่า “ช่างภาพแนวฯ” (ชื่อเต็มๆ คือ “ช่างภาพแนวห่าเหวอะไรของมันฟะ!” ) หรือถ้าจะเรียกแบบห่ามๆ ดิบๆ คือเป็นช่างภาพที่ถ่ายรูปได้ส้นตึกมาก! ถ้าเปรียบเทียบกับช่างภาพมืออาชีพ ด้วยความเคารพ- ผมหมายถึงบรรรดา “โปรฯ” (Professional) ทั้งหลาย

เวลาที่ใครก็ตาม (ริ) เรียกผมว่า “ช่างภาพมืออาชีพ” ผมมักสละเวลาที่มีอยู่อย่างมากมายอธิบายและวอนขอให้เขาและเธอเหล่านั้นในทุกๆ ครั้งว่ารบกวนช่วยเรียกผมเสียใหม่ว่า “ชายผู้มีอาชีพเป็นช่างภาพ” เถิด จะยินดียิ้มรับโดยไม่ขัดเขินแม้แต่น้อย ได้โปรดทำความเข้าใจเสียใหม่ เพราะผมรู้สึกว่าการเป็น “มืออาชีพ” มันต้องมีความสามารถและศักยภาพที่สูง สามารถทำ/ถ่ายทุกสิ่งอย่างในสายงานวิชาชีพนั้นๆ โดยไม่ขัดขื่นขืนใจ ซึ่งต่างไปจากผมที่เป็นคนมักน้อยและไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน แถมยัง (เสือก) มีข้อแม้เยอะอีก จึงเป็นได้แค่มือสมัครเล่นด้วยความยินยอมน้อมรับ

Sorry man, I'm not a Prof. I'm just a Norm.

เกือบปีที่ผมถ่ายรูปในแบบที่ตัวเอง “ไม่ชอบ” และที่สำคัญ “ไม่เชื่อ” ไว้เยอะเกินตัว โอเค- รูปที่ว่าส่วนใหญ่เป็นส่วนของ ‘งาน’ ที่ต้องถ่ายเพื่อใช้ประกอบในนิตยสาร แต่กับการที่ไอ้กระผมต้องถ่ายแล้วถ่ายอีก ถ่ายแล้วถ่ายอีก ถ่ายแล้วถ่ายอีก ถ่ายแล้วถ่ายอีก ถ่ายแล้วถ่ายอีก ถ่ายแล้วถ่ายอีก ถ่ายแล้วถ่ายอีก ถ่ายแล้วถ่ายอีก จนถึงจุดหนึ่งผมก็ ‘ชิน’ และ ‘ชา’ ไปกับการถ่ายแบบที่ว่าจากที่กระอักกระอ่วนมานาน เข้าใจอยู่ครับว่าแตกต่าง ความรู้สึกเวลาที่ทำอะไรด้วยความสนุกนั่นมันไม่เหมือนกับการทำเพื่อแลกกับค่าตอบแทนในการดำรงชีพ

โดยส่วนตัว- ก็แค่มันไม่สนุกเหมือนตอนแรกเริ่ม และกลายเป็นสิ่งเดิมๆ ที่ทำไปตามความเคยชิน ไม่ได้รู้สึกรู้สาใดๆ กับรูป เกิดอาการด้านชาและเบื่อหน่ายกับการถ่าย ในวันหยุดหรือนอกเหนือเวลางาน ผมได้แต่ส่ายหัวโดยไร้แล้วซึ่งเรี่ยวแรงบันดาลใจในการหยิบยกกล้องขึ้นมาถ่าย

ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป จากที่เคยแฮปปี้มีความสุขและแอบอมยิ้มน้อยใหญ่ในทุกครั้งที่ลั่นชัตเตอร์อะไรก็ตามแต่ มันก็คงจะแย่

และคงไม่ดีแน่ๆ ถ้าเราเริ่มชินชากับเรื่อง 写真

So please wake me up when September ends man.

z z z...

2 comments:

Anonymous said...

ง่ะ คุณพี่เบื่ออาชีพแล้วหรอคะ

งั้นลองเปลี่ยนไปทำหนังสือยี่ห้ออื่นดูมั้ย
เอ๊ะ แต่เด๋วก็เบื่ออีก...

Insomniac said...

มีคนเคยบอกว่า อย่าเอาสิ่งที่รักมาทำเป็นงาน...แต่ผมก็ไม่เชื่อนะ...เพราะหากจะรักกันแล้วเราคงอยากจะรู้จักกันในทุกๆแง่มุม...คงไม่เลือกมองเฉพาะแง่มุมที่สวยงาม
แต่ความสุขในหน้าที่การงานก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราต้องอยู่กับมันแทบจะทั้งชีวิต หากหาความสุขกับมันไม่ได้แล้ว...อย่าไปคิดที่จะหาความสุขจากที่อื่น เพราะเติมยังไงก็ไม่มีทางเต็ม...ต้องเริ่มจากความสุขในชีวิตประจำวันเสียก่อน...ยังมีอะไรๆให้ถ่ายอีกตั้งเยอะแยะ...ที่ไม่ใช่หนังสือญี่ปุ่น