3/05/2009

C'est la vie

แม้มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปในด้านของวัตถุ
แต่ความทรงจำเก่าๆ นั้นยังคงอยู่ดังเดิม
มีบ้างที่เลือนจาง แต่ไม่เคยหลงลืม
เพราะเพียงแค่นึก ก็รู้สึกได้...


ถ้าจะให้อุปมา เมืองที่มีศูนย์ห้าตัวก็เป็นเสมือน “บ้านเพื่อน” ที่ผมจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ และก็ยังคงมีความสุขดีในทุกครั้งที่กลับไปบ้านหลังที่ว่า ด้วยที่เคยศึกษาเล่าเรียนและเที่ยวเล่น, ดื่มกิน, นอนตื่นสาย, ถือไฟฉายบุกบ้านผี, ซ้อมดนตรีตอนดึกๆ, เลี้ยงดูปูเสื่อหมาที่มาจากไหนก็ไม่รู้, เตะบอลโกลด์หนูข้างศูนย์แพทย์, เสียน้ำตาเป็นถังให้กับความสัมพันธ์ที่ไม่มีวันเข้าใจ, ลุกขึ้นมาผัดมาม่าตอนตีสอง เพราะแค่อยากกินเส้น, (แอบ) จี๊จ๊ะเล่นกับรุ่นน้อง (เพราะของแบบนี้ทำโจ่งแจ้งไม่ได้) , ร่วมประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ และเมาเละเทะกับเพื่อนๆ ตอนออกไปรับน้องนอกสถานที่

เอ่อ... เท่าที่นึกได้มีแต่เรื่องเหลวไหลแฮะ (-_-")

เสาร์ที่ผ่านมา ผมพาคุณชัดเจนไปเยี่ยมเยือนบ้านเพื่อนหลังที่ว่า
เที่ยวนี้เราไปกันแบบเบาๆ (เพราะหาสมาชิกเพิ่มไม่ได้)
คุณชัดเจนกะจะไปลองเลนส์ตัวใหม่ที่ไปหยิบยืมรุ่นน้องมา
ส่วนผมก็แค่แต่งหน้าทำผมและพกอารมณ์หลวมๆ ติดไปด้วย

ออกจากกรุงเทพฯ ตอนบ่ายอ่อนๆ เพื่อให้ทันชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมแท่น
เราแลนดิ้งแถวๆ หาดวอนนภาก่อน ตอนราว 4 โมงเย็น
นั่งดูกีฬาทางน้ำพวกวินเซิร์ฟและบานาน่าโบ้ตไปพลาง จิบน้ำมะพร้าวไปพลาง

ย่ำค่ำเราก็ไหลเลยไปอยู่แหลมแท่น
ท้องฟ้าสีส้มอมชมพูยามเย็นปลายเดือนกุมภาฯ ที่นั่นโรแมนติกชะมัด
เสียดายที่คุณชัดเจนเป็นเพื่อนชาย คงทำหน้าที่ในเขตอ้อมแขนของผมได้ไม่ดีนัก และอาจพานทำลายบรรยากาศบริเวณนั้นให้กับผู้พบเห็นได้ ผมจึงจำต้องปล่อยให้สหายหนุ่มถ่ายรูปตามอัธยาศัย
(ขออภัยที่แอบคิดมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)

ตกกลางคืนเราเดินเล่นในงาน “บางแสนย้อนยุค” พอเป็นพิธี
จัดได้ดีทีเดียวครับงานนี้ หลากหลายและได้ความรู้ดี
มีขนมย้อนๆ มีของเล่นย้อนๆ มีแผ่นเสียงย้อนๆ มีบรรดาคุณนายแต่งตัวย้อยๆ และมีรถโบราณๆ จอดโชว์อยู่ตลอดทางเดินในงาน คนคลั่งรถโบราณคงชื่นบานกันเป็นแถวๆ ที่ได้เห็นกันจะๆ (เท่าที่สังเกต ส่วนใหญ่เป็นทะเบียนกรุงเทพฯ กับเชียงใหม่แฮะ)

มีอย่างหนึ่งที่ผมขัดๆ ยังไงชอบกล คือ บางแสนมีเสื้อยืดกับเขาด้วยแล้ว (เว้ยเฮ้ย!) เป็นเสื้อสกรีนประมาณ “I Love เชียงใหม่” “ซื้อมาจากหัวหิน” หรือ “ของฝากจากอัมพวา” ซึ่งของทางบางแสนนั้นหนาเป็นเสื้อยืดสีดำสกรีนสีขาวพาดหราตรงหน้าอกอ่านออกเสียงได้ว่า “บาง-สิบ-หมื่น”
“.....”

ผมและคุณชัดเจนไปยืนแช่ (เนื่องจากเตียงผ้าใบที่ทางงานเตรียมไว้นั้นถูกจับจองด้วยเด็กๆ แถวนั้นหมดแล้ว) ตรงหนังกลางแปลงที่ฉายเรื่อง “แฟนฉัน” อยู่นานสองนาน
“อีนมใหญ่เมียมึงๆ ”
คุณชัดเจนหัวเราะชอบใจเมื่อถึงฉากที่ไอ้แจ๊กล้อเจี๊ยบเรื่องน้อยหน่า
หนังเรื่องนี้ผมได้ดูครั้งแรกในห้องสโลปที่คณะ ตอนที่ทางทีมงานเขามาฉายรอบนักศึกษาก่อนที่จะเข้าฉายโรงจริงๆ
จำได้ว่าตอนนั้นผมถึงกับน้ำตาไหล ในตอนที่พ่อของน้อยหน้าไปเคาะประตูบ้านของพ่อเจี๊ยบเพื่อล่ำรา ทั้งๆ ที่เป็นคู่แข่งตลอดกาลกันในเรื่องของวิชาชีพ

ผมว่าสำคัญและมีความหมายนะครับ
ถ้าอยากบอกลา ต้องเห็นหน้าค่าตากัน
เพราะอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ร่วมยิ้ม หรือร่ำไห้
โชคชะตานั้นอาจไม่นำพาให้ใครพาดผ่านมาพบเจอกันอีกเป็นครั้งที่ 2
แต่ก็เป็นช่วงๆ ของชีวิตแหละครับ มีพบ ก็มีพราก
อยู่ที่ว่าเราจะได้พบเจอและรู้จักกับใคร ณ เวลาไหน
4 วัน 4 เดือน หรือ 4 ปี
เราใส่ใจแค่ไหนกันในความสัมพันธ์ ณ ขณะนั้น
บางทีสั้น— ยาว อาจไม่สำคัญเท่ากับว่าเราได้รู้จักกัน

และเป็นประจำเกือบทุกครั้งที่พอมาบางแสนทีไร ตอน 3 ทุ่มกว่าๆ ก็จะได้เวลา “ไชโย”
ไชโยเป็นร้านเหล้าหลัง ม. ที่เจ๋งมากๆ ใน “โสตคติ” ของผม
หมายถึงผมชอบแนวเพลงที่ร้านนี้เปิดน่ะครับ
ไม่เคยเจอเหมือนกัน ร้านไหนที่รู้จักและเปิด Bloodhound Gang โดยเฉพาะเพลง Three point one four ซึ่งถ้าเป็นภาษาเก้งกวางก็ต้องพูดทำนองว่า “ชอบได้อีก” หรือ “ชนะเลิศ” อารายแบบเนี้ยย

มีเครื่องดื่มเย็นๆ สักขวดสองขวดนะ
มีเพลงไทย เพลง’เทศ เพราะๆ เปิดคลอนะ
มีคู่สนทนาที่ผ่านร้อนฝนมาพอกันนะ
อีกหน้าใสกิ๊ง! และสายตาปิ๊ง!ๆ ของน้องๆ นักศึกษาที่มาเที่ยวในร้านล่ะก็นะ...

อย่างที่บอก— คล้ายๆ ว่าไปเที่ยวบ้านเพื่อน
สุขใจ ทุกข์ใจ ไปเถอะครับ ไปผ่อนคลายเอาที่บ้านมัน
ถึงแม้ว่าตัวมันนั้นดูเหมือนจะเย็นชาและไม่ได้ช่วยอะไรๆ เราให้มันดีขึ้น แต่อย่างน้อยแม่มันก็ต้องเอ่ยชวนให้ทานข้าวทานปลาด้วยกันก่อนกลับอย่างแน่นอน

ทานให้อิ่มเลยนะครับ
แล้วจะพบกับรอยยิ้มบางๆ ที่แสนสุขตรงมุมปากของทางเจ้าบ้านเขา

10 comments:

Pls. Say Something.... said...

มีบรรดาคุณนายแต่งตัวย้อยๆ <<< ประโยคนี้ตั้งใจให้มัน "ย้อย" ใช่มะ -_______-"

Anonymous said...

อืมมมม...

เขียนดีนะ


NUNI

Anonymous said...

"แม้มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปในด้านของวัตถุ
แต่ความทรงจำเก่าๆ นั้นยังคงอยู่ดังเดิม
มีบ้างที่เลือนจาง แต่ไม่เคยหลงลืม
เพราะเพียงแค่นึก ก็รู้สึกได้...."



มาจากสื่ออะไรอ่ะ หนังสือ หรือว่าหนัง โคตรจะคุ้นเคย

Anonymous said...

แหม เขียนเก่งใหญ่แล้วนะพี่ขุ่น

Anonymous said...

พี่ไม่ธรรมดาจริงๆนะเนี่ย
เขียนได้หมดจด สดใส

รวมเล่มได้แล้วแหละ
อ่านแล้วอยากกลับไปอยู่บางแสนง่ะ

ต.แสนสุข :)

Anonymous said...

คำชมเยอะจัง


แหวะ เขียนไรไม่รู้
ย้าวยาว อ่านไม่รู้เรื่อง
คิดมาได้ เมืองที่มีศูนย์ห้าตัว

1306ix said...

ใช่
^^
คิดเอง
แหม...
ไปดิ
เหอๆ

ขอบคุณ

Anonymous said...

กลับมาได้แล้วววว

พลีสสสส

Anonymous said...

เคยได้ร่วมไปบ้านเพื่อนกับเค้าบ้างเหมือนกัน คิดแล้วก็เพลินดี

ว่าแต่ไมคุณชัดเจนนี้เป็นตัวละครสองเรื่องติดเลยอะ อิอิ

Anonymous said...

ุุเด็กกำลังกินกำลังเที่ยว อะฮะ

แต่ตอนไปเชียงใหม่คึกคักเกินเหตุ

เลยcompleteก่อนใครเพื่อน

ไปบางแสนคราวนี้เลยคึกคักแต่พองาม

ไชโยยังเหมือนเดิม

เสียดายไม่ได้ไปด้วยกัน