8/17/2009

มันจะมี...


เราเลือกที่จะนั่งเล่นกันอยู่บนผืนหญ้านุ่มๆ ริมสระในสวนสาธารณะแทนที่จะเลือกร้านอาหารดีๆ สักร้านในย่านนั้นกับวันว่างๆ กลางสัปดาห์ที่อบอวลไปด้วยเชื้อไวรัส H1N1 ชนิด B

จำได้ว่าเธอเคยบอกผมในวันแรกๆ ที่เราเริ่มพูดคุยกันใหม่ๆ ว่าชื่นชอบในระบบนิเวศในสวน พวกสีเขียวๆ ของใบไม้ใบหญ้า สระน้ำ ร่มเงาของต้นไม้ เสียงเจี๊ยวจ๊าวเล็กๆ ของเด็กและนก เพราะมันทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอยู่ในทุกๆ ครั้ง

เธอน่ารักมากเวลาที่พูดอะไรออกมาจากความรู้สึกจริงๆ
และมันก็มักจะทำให้ผมรู้สึกร่วมไปกับเธออย่างชิดเชื้อด้วยเสมอ

แม้ว่าวันนี้ลมฟ้าอากาศจะทำตัวไม่ค่อยน่ารักนัก
ท้องฟ้ามัวครึ้ม มีลมพัดเพียงแผ่วๆ
กลุ่มก้อนเมฆเบื้องบนก็ควบแน่นตั้งเค้าว่าจะเปลี่ยนสถานะในอีกไม่นานเกินรอ
สีเขียวที่มีจึงเป็นเขียวที่ค่อนข้างหมอง
แต่เสียงของเด็กๆ และนกที่เธอชอบ กอปรกับภาพระบำน้ำพุเบื้องหน้าก็ยังพอช่วยให้เย็นนี้ไม่แย่จนเกินไป
ผมและเธอนั่งคุยฟุ้งเรื่องราวสัพเพเหระกันที่นั่น โดยเฉพาะกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง

หลังจบการร่ายรำของน้ำพุในเวลาราวหนึ่งทุ่ม Lighting show อั้นเย้ายวนนวลตาของแสงไฟทางเดินรอบๆ สวนที่สะท้อนไหวกับผิวน้ำเนียนๆ เป็นประกายระยับก็อังกอร์ต่อให้เรา ในขณะที่เรื่องไม่เป็นเรื่องหลายต่อหลายเรื่องก็ยังคงถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยด้วยความเพลิดเพลิน

สักพัก เธอก็หยิบเครื่องเล่น MP3 ขึ้นมา แล้วเลื่อนเลือกเพลง ก่อนที่จะปันหูฟังข้างหนึ่งให้ผม
แล้วจากนั้นเราก็เชื่อมต่อกันและกันด้วยเส้นสายสีขาว
ผมจัดการยัดเข้าไปในรูหูซ้าย เพื่อรับฟังการบรรเลง
มันเป็นเพลง Arthur’s Theme (Best That You Can Do) ในเวอร์ชั่นหวานๆ ของ Paris Match

เธอบอกว่าชอบ ฟังทีไรเหมือนมันจะมีดอกไม้บานอยู่ในหู
และยิ่งถ้าได้ลองฟังในสวนสาธารณะคงจะดี เพราะจะมีที่ทางกว้างขวางมากพอให้ดอกไม้หลายร้อยได้เบ่งบานไปพร้อมๆ กัน ทั้งในสวน และในหู

When you get caught between the Moon and New York City
I know it's crazy, but it's true

If you get caught between the Moon and New York City
The best that you can do… is fall in love


ถ้าเธอถูกจับได้ระหว่างพระจันทร์กับเมืองนิวยอร์ก
มันอาจจะฟังดูบ้าๆ นะ แต่มันเป็นเรื่องจริง
สิ่งที่ดีสุดที่เธอควรทำก็คือ... ตกหลุมรักเสีย

.
.

ในที่สุดผมก็หลุดปากเอ่ยออกไป โดยที่ดูเหมือนจะไม่ได้สนหรือใส่ใจกับอาการของฟ้าฝนและเชื้อไวรัสเท่าใดนัก

จะว่าไปที่จริงนั้นผมซ้อมเรียกชื่อเธออย่างแผ่วเบาสองครั้งก่อน พอให้ดูมีพิรุธ แล้วพูดต่อให้จบประโยคแบบไม่เปล่งเสียงในใจ ก่อนที่จะสารภาพความจริงข้างในออกไปในครั้งที่สาม ด้วยสารรูปที่มอมแมมเล็กน้อยจากการเดินทางอย่างสะบักสะบอมที่ผ่านมาก่อนหน้า

ถึงตอนนี้ลมก็กรรโชกขึ้น พร้อมกับเสียงหวีดหวิวของต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ ที่ส่งเสียงกระพืออื้ออึงชวนให้ตกตะลึงพรึงเพริด
หมู่เมฆปลายเดือนกรกฎาฯ ที่ดูซึมทึมตั้งแต่ช่วงเย็นก็โปรยปรายลงมาเป็นสาย
กบตัวเล็กตัวน้อยสอง- สามตัวข้างๆ ส่งเสียงร้องขานขับรับการมาถึงของหยดน้ำจากอากาศ

แล้วผมก็เปียก และไหลตกลงไป

5 comments:

Pinky Bear said...

^_^

หวานดีจัง

Insomniac said...

เขียนได้ดี...เกือบแล้วครับ

babyshampoo said...

ภาษางดงามจริงๆ

1306ix said...

thanx ^^

อิสแอมอาร์ said...

กิ๊วววว

>///<