11/07/2010

Taxi Driver

ขับมาได้สักพักเธอก็ร้องบอกให้จอดเพราะถึงจุดที่เธอจะลงแล้ว
ผมจึงชะลอความเร็วลง จอดรถ กดมิเตอร์ แล้วแจ้งราคาให้เธอทราบ
แทนเงิน เธอจ่ายค่าโดยสารผมด้วยชิโร่ย โค่ยอิบิโตะ (Shiroi Koibito) สุดยอดคุ้กกี้สอดไส้ไวท์ช็อกโกแลตจากฮอกไกโด
ผมอดอมยิ้มไม่ได้ด้วยที่ว่าเอ็นดูความน่ารักที่เกิดขึ้น
จึงรับมาด้วยรอยยิ้มแล้วตอบเธอไปว่าไม่มีปัญหา
แต่ไหนแต่ไรผมก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องค่าตอบแทนอยู่แล้ว
นั่นคงเป็นสาเหตุหนึ่งกระมังที่ผมยังคงเช่าแท็กซี่เฮียโจ้ขับอยู่แบบนี้

“ไปก่อนนะคะ”
เธอเอ่ยออกมาพร้อมกับเปิดประตูรถออกไป
ผมยิ้มส่งเธอผ่านทางกระจกมองหลัง แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สังเกตเห็น
เธอปิดประตูรถ แล้วออกเดิน

ผมฉีกซองคุ๊กกี้ที่เธอให้ จัดการมันในทันที เจ้าคุ้กกี้แสนอร่อยนั่น มันช่างหวานกลมกล่อมดีจริงๆ
“อุม่ายย” (Umai)
ผมหลับตาลง ร้องเสียงหลง ดีดดิ้นพล่านอยู่หลังพวงมาลัย

แล้วเสร็จจากคุ้กกี้ ผมสงบลง และเริ่มออกรถเพื่อวิ่งหาผู้โดยสารต่อ
ขณะกำลังทำรอบเครื่องยนต์เพื่อเปลี่ยนเป็นเกียร์สูง ผมเอื้อมเปิดลิ้นชักหน้ารถหยิบเอาม้วนเทปเพลงเก่าแก่ออกมายัดใส่เครื่องเล่นฟังเพื่อทำลายความเงียบ
ไม่ต้องห่วงเลยว่าผมจะหยิบผิดม้วน เพราะมันมีคาสเซ็ตอยู่แค่ม้วนเดียวในนั้น
ผมเคยคิดอยู่เหมือนกันว่าจะเปลี่ยนเครื่องเล่นเป็นรุ่นที่สามารถเล่นแผ่นซีดีได้
แต่ก็ประวิงเวลาเรื่อยมา ด้วยเห็นว่าส่วนใหญ่นั้นก็ฟังวิทยุเอา

เสียงเพลงค่อยๆ ดังขึ้น ความเงียนงันพลันมลาย

ในความอบอุ่นอันลึกซึ้ง ในห้วงคำนึงรู้คิดถึงกัน
คือการจำยอมยอมลาร้าง ไปตามเส้นทางเพื่อหวังพบกัน
พูดคุยทักทายให้กำลังใจ
ปลอบโยนและห่วงใย คือความหวังดี
ทุกๆ สิ่งที่มีซึ้งใจ อบอุ่นใจ


“อบอุ่นใจ”
ผมร้องตามด้วยความอินในท่อนท้าย
ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ท่วงทำนองของบทเพลงยังคงบรรเลงต่อเนื่อง
รถยังคงแล่นต่อไป มือจับพวงมาลัย ผมดิ่งจม...

“ปัง!!”
ดังสนั่นหวั่นไหว!

ในที่สุดเสียงที่ว่านั้นก็ดังขึ้นอีกจนได้ สิ่ง/เสียงที่ผมสังหรณ์
ภาวนาเหลือเกินว่าให้กัมปนาทแห่งเสียงนั้นเป็นเสียงของยาง
แต่ความจริงก็ตอกย้ำกับผมอย่างแน่นหนักว่าไม่ใช่
รักลั่นขึ้นอีกครั้งแล้วจริงๆ เหมือนเมื่อหลายปีก่อน
ประกันชั้นสามที่มีอยู่นั้นก็ไม่ได้ครอบคลุมในเรื่องนี้ด้วย
เห็นทีว่าคงจะช่วยอะไรไม่ได้เสียแล้ว
แต่ก็ถือว่าโชคยังดีที่ภายในรถตอนนี้ไม่มีผู้โดยสารอื่นใด
จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าใครจะบาดเจ็บ

นอกจากผม

No comments: