3/05/2011

Beternity



"If You Love Somebody Set Them Free" — String

.........

เหมือนวันเวลามันหมุนวนเป็นวงกลม
เรานัดเจอกันครั้งแรกที่ลานหน้า Central World ในงานนิทรรศการภาพถ่ายชุด Planet Ocean, A Voyage to The Heart of Marine Realm ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาล La Fete ปี 2009
ภาพทุกภาพใต้ทะเลลึกวันนั้นช่างสวยงามน่าอัศจรรย์ ตราตรึงใจ

หลังดูงานเสร็จ เรานั่งพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยต่อจนดึกดื่น
รถราเริ่มบางตา ไฟฟ้าทยอยดับ เราร่ำลา
ผมมีความสุขมาก เป็นค่ำคืนมหัศจรรย์ในรอบหลายปีของผมเลยทีเดียว
ทั้งภาพถ่ายทั้งหลายเหล่านั้น และเธอ - ภาพจริงที่มีมิติจับต้องได้
ผมเก็บค่ำคืนนั้นกลับมาฝันหวาน แล้วจากนั้นเราก็คบหากันเรื่อยมา

นั่นเป็นวันแรกที่เราพบกัน ผมจดจำได้ไม่เคยลืมเลือน

………

บอกได้เลยว่าปี 2010 สำหรับผมนั้นถือเป็นปีที่ดีที่สุดเท่าที่ชีวิตเคยผ่านมา
เพราะมันเป็นปีที่มีเรื่องราวของเราเกิดขึ้นมากมายมหาศาล
เรื่องเล่าจากผมและเธอ แตกต่างจากปีก่อนๆ
ที่มีเพียงแต่เรื่องเล่าของผมผู้เดียว

วันแล้ววันเล่าที่เรามีกันและกัน เราดื่มกิน เราท่องเที่ยวเดินทาง ตั้งแต่นอนในท่านั่งบนรถไฟฟรีชั้นสามเก้าอี้นั่งแข็งโป๊ก ไล่ไปจนกระโดดทิ้งตัวลงบนเตียงสุดนุ่มมหึมาในรีสอร์ทหรูหราห้าดาว เราโบกรถ นอนเต้นท์ ดำน้ำ ทำโปสต์การ์ด ขายเสื้อ ไหว้พระ ดูคอนเสิร์ตบนเขา หรือแม้แต่เกิดอุบัติเหตุ มีวันคืนที่หัวเราะร้องไห้ไปด้วยกัน เธอสั่งสอนหลายต่อหลายเรื่องให้กับผมด้วยไมตรี ความผูกพันแนบแน่น ที่สำคัญ เรารักกัน ผมรักเธอ และรักเธออย่างจริงใจ

ในเวลาที่ผมคิดว่าทำไมนะ ทำไม่ถึงไม่มีคนเข้าใจในสิ่งที่ผมทำและเป็นอยู่
แต่อย่างน้อยที่สุดผมก็ยังรู้สึกอบอุ่นในใจ
เพราะมีเธอคอยอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจ
เป็นกำลังใจหนึ่งเดียวที่ผมมี
นี่ไงความรัก -- สวยงามจริงๆ

จวบจนมาถึงวันที่เราจำเป็นต้องลาร้าง
เธอต้องไปในที่ที่เธอควรไปแล้ว หมดเวลา เราไปด้วยกันได้แค่นี้
มันเป็นความจำเป็นที่ลี้เลี่ยงไม่ได้ในความเป็นจริง
ความเป็นจริงที่ว่า แค่คำว่ารักที่มีนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป (คงต้องเข้าใจสินะ)
นึกย้อนกลับไปทีไร ผมก็หงุดหงิดตัวเองอยู่เหมือนกันกับเรื่องบางเรื่องที่น่าจะทำให้เธอได้ดีกว่าที่เคย แต่ป่วยการเปล่าเสียแล้ว พูดไปก็ไลฟ์บอย

อย่างที่รู้ ความเป็นจริงเจ็บปวดเสมอ
กำลังใจเดียวที่มีของผมจากไปแล้ว
หัวใจผมรวดร้าวแหลกสลายนับจากนั้น

………

กับวันนี้ — ปี 2011
เหมือนวันเวลามันหมุนวนเป็นวงกลมจริงๆ นั่นแหละ
เรากลับมาเดินผ่านจุดที่เราเริ่มต้นกันอีกครั้งหนึ่ง
ที่ลานหน้า Central World มีงานนิทรรศการภาพถ่ายชุด Portait of Asia ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาล La Fete เหมือนเดิมอีกครั้ง เพราะปีที่แล้วงานเดียวกันนี้ไม่ได้จัดเพราะติดเรื่องกีฬาสีและคดีวางเพลิง

ภาพทุกภาพในนิทรรศการสวยงามดั่งเดิม
ทว่าวันนี้ความสัมพันธ์ของเราพังทลายลงไปสิ้นไม่มีชิ้นดี
ไม่ต่างอะไรเลยจากซากทะมึนของอาคารใหญ่โดนไฟไหม้ที่ปรากฎ
จะหลงเหลือก็แต่เพียงความทรงจำแสนสุขที่ไม่มีวันย้อนคืน

นานเท่าไหร่แล้วที่ความรู้สึกไม่เคยเข้มข้นขนาดนี้
เราเดินคู่กัน เธอมีเรื่องเล่าของเธอที่น่ายินดีมากมาย
มันทั้งตื้นตันดีใจและขมขื่นใจผสมปะปนไปด้วยน้ำตาจนยากจะแยก
ผมทำได้เพียงส่งยิ้มรับความเป็นไป สะกดอารมณ์เฮงซวยนั้นไว้แต่เพียงลำพัง
โทษที -- ถ้าเธอสังเกตเห็น มันคงเป็นยิ้มหแยๆ ที่ดูแย่เอามากๆ เลย

ที่ผ่านมาขอบคุณนะ ขอบคุณมาก
ขอบคุณที่เคยรักและเข้าใจผู้ชายแบบผม
เป็นไปตามเส้นทางของเธอเถิด
เพราะผมเองก็คงต้องเป็นไปตามเส้นทางของผมที่เหลืออยู่เช่นกัน
ก็ถ้าวันเวลามันหมุนเป็นวงกลมแล้วล่ะก็..

สักวันหนึ่งเราคงได้โคจรมาแลกเปลี่ยนชื่นชมภาพความความทรงจำชุดใหม่อันงดงามสดสวยของเรากันที่นี่อีกครั้ง

7 comments:

Blackspace555 said...

เห้ยไอ้ตี้ เศร้าเหี้ยๆว่ะ
ดูงานกูมั่ง
http://blackspace555.blogspot.com/

1306ix said...

หวัดดีลูกพี่//

ิbabyshampoo said...

เจ็บปวด แต่งดงาม


ปล. มีบ้านใหม่แล้ว กำลังก่อร่างสร้างตัว เชิญแวะชมบ้านตัวอย่างก่อนนะ

K-kinda busy said...

Love is always beautiful (like your pics)

im KiMZa said...

ผ่านพบ...ผูกพัน...จากลา...
Wong Kar Wai บอกว่า ชีวิตคน คนหนึ่ง แม่งก็มีอยู่แค่นี้!

Yes sir, แม่งงงงยากส์.....(แต่ไม่)มาก

miki said...

เจ็บจนคนอ่านเศร้าตาม :')

ความรักคือสิ่งสวยงาม ความทรงจำคือสิ่งมีค่า

ถ้าเราคิดว่ามันเป็นบทเรียน มันจะกลายเป็นเรื่องร้าย

แต่ถ้าเราคิดว่ามันเป็นความหวัง เหมือนที่พี่บรรยาย


มันคือเรื่องดี ในชีวิตค่ะ ^^

1306ix said...

คิดเอง เขียนเอง
แต่อ่านทีไรก็สะท้านสะเทือนในใจ