6/21/2011

เป็นพระ

แล้วไอ้ต่อก็บวช
ไม่นานนักจากวันที่โทรไป
มันบอกว่าหมอห้ามดื่มแล้ว เพราะเครื่องเคราข้างในมันเริ่มมีปัญหา
กะจะชวนคุยเรื่องราวสี่ซ้าห้าปีที่โน่นว่าเป็นอย่างไรบ้างแบบยาวๆ เสียหน่อย เพราะวันที่ไปรับมันที่สนามบินก็ไม่ได้คุยกันจริงๆ จังๆ แต่อย่างใด เพียงพูดคุยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบและเรื่องทั่วๆ ไปกันมากกว่า
ผมกดโทรศัพท์ไปหามัน
บลา.. บลา.. บลา..
เราสวมกอดกันโดยไม่มีอาการเคอะเขินแต่อย่างใดด้วยความคิดถึง
นอกจากกอดกับแฟนสาวแล้ว กอดของเพื่อนรักที่จากกันไปยาวนานกว่าห้าปีก็รู้สึกดีเยี่ยมไม่แพ้กัน จริงๆ นะ เชื่อเถอะ แค่ยกมือทักกันมันไม่พอหรอก
ผมไปรับมันที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ปีที่ 5 มันมาโพสบอกกำหนดกลับในเว็บบอร์ดของทีมฟุตบอลเรา (แน่นอน เราเคยเตะด้วยกัน อ้อ ใช่! อีกอย่างมันเป็นสาวกสาลิกาดงเช่นเดียวกันกับผมด้วย) ว่าใครว่างก็เชิญไปต้อนรับได้ที่สนามบิน แลนดิ้งราวเที่ยงคืน
ปีที่ 4 ..... เงียบกริบ เช่นเดียวกับปีแรก แต่พอรู้ว่ามันทำงานอยู่ในร้านอาหาร
ปีที่ 3 มันโทรมาบอกว่าตามอ่านบล็อกผมอยู่ เขียนต่อไปเรื่อยๆ นะ มันชอบ
ปีที่ 2 มันส่งเมลมาแนะนำวง Bloc Party บอกให้ลองฟังดู
ปีแรก ผ่านไปอย่างเงียบเชียบไร้ซึ่งการติดต่อ
ผมไปส่งมันที่สนามบินดอนเมือง
บลา.. บลา.. บลา..
เราดื่มกินอย่างเมามายย่านพญาไท บนความคึกคักและครื้นเครงประสาวัยรุ่น คลอเคล้าขับกล่อมอารมณ์คะนองของค่ำคืนด้วยบทเพลง “แอน” ของเสกโลโซ
พอเรื่องวีซ่าเรียบร้อย มันก็โทรมาชวนผมออกไปเลี้ยงส่งให้มันหน่อย
ผมก็กำลังง่วนอยู่กับการงานในบางกอก จึงไม่ได้อะไรกับมัน
จำได้ว่ามีช่วงหนึ่งมันไปลงเรียนปรัญชาอะไรสักอย่างที่ทับแก้ว แต่ไม่รอด
หลังจบมหาวิทยาลัย มันทำงานอยู่พักใหญ่ ลาออก กลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด อีกพักหนึ่งมันก็นึกจะไปเรียนต่อ
ไม่ผิดจริงๆ หากจะต้องเดาว่าพวกเพื่อนๆ เราใครจะมีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ว่าจะได้ไปต่อ... ผมหมายถึงไปเรียนต่อเมืองนอกเมืองนา
บลา.. บลา.. บลา..
แต่เหนืออื่นใด มันจริงใจ และเป็นเพื่อนที่ดี
เป็นแบบฉบับของมันเองโดยแท้
อีกหลายต่อหลายเรื่องก็จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ขอรับประกันการันตีว่าเยาวชนใฝ่ดีไม่ควรลอกเลียนแบบเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ก็มันนั่นแหละที่เป็นคนนั่งซ้อนท้ายไอ้เล็ก แล้วพวกก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านกันหลังวงเหล้าเราเลิก ด้วยความเมาแอ๋ (เหมือนเช่นทุกครั้ง) มันก็ลุกขึ้นยืนบนเบาะ (การทรงตัวเป็นเลิศ) แล้วปลดซิบกางเกงบรรจงเยี่ยวลงใส่หลังไอ้เล็กมันบนความเร็วกว่า 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยความสำราญ
เล่นเอาไอ้เล็กนี่บ่นอุบไปหลายเดือน
For Example
โอย.. เยอะ ไม่ไหวจะเล่า
แต่ไอ้ที่วีรกรรมเยอะสุดก็คงต้องยกให้ไอ้ต่อมัน
สมัยนั้นก็ดื่มกินเหล้าเบียร์กันเป็นน้ำ มีภาพจำและเรื่องเล่าตอนเมาๆ เพียบ
กลายเป็นแก็งค์ขนาดใหญ่ นับรวมได้สิบสามนาย ผู้ชายล้วน
ไปรวมเข้าด้วยกันกับพรรคพวกข้างในหอพักในโรงเรียนด้วยอีกราวสิบคน
เราอยู่ก๊วนเดียวกันสมัยเมื่อตอนสามปีในมัธยมปลาย
เพื่อนผู้ชายกลุ่มแรกของผมกับห้องทับแปด 4/8, 5/8 และ 6/8
ไอ้ต่อ ไอ้เล็ก และไอ้ปาร์ก
ยุทธจักรและสิทธิเจตน์
เป็นต่อศักดิ์

No comments: