11/01/2008

There's Something About ...


Well, ล่าสุดไปถ่ายรูปเพื่อใช้ทำ card แต่งงานให้กับพี่ทัชและพี่ก้อยมา
Concept ในการถ่ายที่พี่ๆ ทั้งสองระบุเน้นมาให้ก็คือ
“ถ่ายยังไงก็ได้ ขอแค่ไม่ฟุ้งฝัน ดูแล้วไม่เลี่ยน”
“Oh! Great that’s my style.”

ผมรู้จักกับคนทั้งคู่ตอนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
โดยผมอยู่บริษัทเดียวกันกับพี่ก้อย (Littlefing)
ส่วนพี่ทัช (Touch) คนรักของพี่ก้อยนั้นแกก็จะแวะเวียนมาเที่ยวเล่นที่ที่ทำงานเรา (Me and พี่ก้อย) บ่อยๆ We (พี่ๆ ทั้งสองและผม) always ไปเที่ยวและ eating out ในยามเลิกงานกันอยู่เสมอ ๆ ครั้งที่จำได้แม่นไม่ลืมคือวันที่เราไปลอยกระทงโต้รุ่งกันที่ Dreamworld ค่ำคืนนั้นสนุกและเปียกปอนเอาเรื่องเชียว that why เราสนิทสนมและพอรู้นิสัยใจคอกัน
So, การถ่ายในวันนั้นจึงค่อนข้าง be frank เป็นกันเอง และก็ต้อง thanks เจ้า “ถังไป่หู่” และ “ฟางซื่อยี่” baby ที่น่ารักของพี่ๆ เขาที่มา jam ด้วยใน frame (ช่วยสร้างความหฤหุนหรรษาฮาให้ไม่น้อยเลย) ^_^"

Few days after ขณะนั่งรถเมล์เอางานไปส่งที่ office ของพี่ก้อยแถวพระราม 4 (สำหรับคนที่ไม่เคยขึ้น- รถเมล์ราคา 10 THB แล้วนะ) กำลังนั่งหน้าเหนียวเหนอะหนะรับฝุ่นควันอยู่ DD บนรถ copy เด็ดๆ ก็พลันบังเกิด

“Blink!” หลอดไส้ประหยัดไฟในหัวผมกระพริบขึ้น
แล้วผมก็ใช้ความรู้ English เท่าที่พอมีอยู่ทั้งหมดขีดเขียนลงบนแผ่น CD
หลังจากขมวดเป็นปมอยู่ในหัวมาหลายป้ายก่อนจะคลี่คลายไปว่า

“Since the day their littlefingers locked,
their love has been in everlasting touch.”


แปลเป็นไทยก็ประมาณ

“ตั้งแต่วันที่คนทั้งคู่ได้เกี่ยวก้อยกัน
ก็สัมผัสได้ถึงสิ่งที่เรียกว่าความรัก”


Fi--na--le!

1 comment:

prawit said...

แล้วเจอกันในวันงานนะขอรับ