3/02/2009

เรื่องเล่าจากเมืองเหนือ : จบบริบูรณ์


ซัดแฮตทริค (hat-trick) ไปเรียบร้อยแล้วสำหรับคุณตุ๊กตุ่นที่มาขึ้น blog ผม
ถ้าใครว่างจากการงาน ตามไปดู 2 ครั้งก่อนได้ที่ http://1306ix.blogspot.com/2007/06/blog-post_21.html <-- อันนี้ภาคแรก และ http://1306ix.blogspot.com/2008/10/2.html <-- อันนี้ภาคต่อ

คุณตุ๊กตุ่นเป็นเพื่อนของผมเอง (ที่จริงนั้นออกไปทาง ‘ลูกพี่’ เสียมากว่า)
และคุณตุ๊กตุ่นที่ว่าก็กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ครับ
คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะเอาเรื่องของพี่เขา (มัน) มาเล่าสู่กันฟัง
คนมีครอบครัวแล้วผมคงมิบังอาจละลาบละล้วงจาบจ้วงและล่วงเกินอะไร (มัน) ได้อีก ด้วยความที่เกรงใจพี่เขา (มันและเมียมัน) เสียเหลือเกิน
เพราะเวลาแวะไปหาคุณตุ๊กตุ่นทีไร ก็มักจะมีเรื่องเล่าม่วนๆ ติดมันติดไม้ติดมือกลับออกมาด้วยเสมอ และผมนั้นก็ติดอกติดใจเสียเหลือเกินกับบรรยากาศโต๊ะไม้หลังบ้านริมคลองนั่น มันติดลมจนต้องนั่งยาวอยู่บ่อยๆ

ลมที่บ้านคุณตุ๊กตุ่นนั้นติดง่าย และเย็นสบายมากครับ— ยืนยัน

มาจะกล่าวบทไปปี 2009 นี้คงถึงวันวัยและเวลาที่เหมาะควรดีแล้ว สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เกิดในยุค Dookie, พราว, พอง พอง และขุนทอง อสุนี
Do you know what I mean? (อันนี้ก็ Oasis) หรือในวัยใกล้เคียง บวกลบไม่เกิน 2 ปี เท่าที่สังเกตเอาจากคนรู้จักมักจี่รอบข้างที่ยังเจอหน้าค่าตากันอยู่ ผมประมวลผลเอาได้พอประมาณว่า จากที่มีอยู่ 10 พวกกลั้นใจสละละความโสด (บางคนก็ละความโฉด) ไปแล้ว 8 และเป็นผมที่เป็นไอ้หนึ่งใน 2 คนที่เหลือ แต่ที่น่าเครียดและคับแค้นใจเป็นอย่างยิ่งคือ ไอ้คนข้างๆ ผมนี่มันดันมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนแอบเอนเอียงไปทางชอบผู้ชายน่ะสิ เฮ้อ... นี่หรือเมืองพุทธ T_T

เอาล่ะ ตัดพ้อกันพอแล้ว รอบนี้มีภาพมาแปะหนึ่งใบ
ผมลากคนทั้งคู่ไปเดินจูงมือกันถ่ายใน มช. มากับมือ เพื่อจะให้เป็นของขวัญในวันงาน (รอบนี้มั่นใจมั่กๆ ว่าต้องถูก ที่ใช้คำว่า ‘คนทั้งคู่’ มันแตกต่างกับคำว่า ‘คนทั้งสอง’ อย่างเห็นได้ไม่ชัด แต่รับ/รู้/สึกได้) และถือเป็นภาคอวสานของไตรภาค “เรื่องเล่าจากเมืองเหนือ” ด้วยเลย

อ้อ.. ภาคสุดท้ายนี่สะกดด้วย ‘เล่า’ นะครับ ไม่ใช่ ‘เหล้า’ เหมือนเก่า^^

cOngRatuLatiON!

.........

ป.ล. ถ้าใครเคยอ่าน 2 ภาคก่อนผ่านมาแล้ว
The Front of 13, ไอ้คุณณัฐ และ ตุ๊กตุ่น นั้นเป็นคนๆ เดียวกันครับ
ดูจากหน้าตาที่เด็กร้องไห้เห็นแล้วยังต้องหยุดแบบนั้น แต่ดันมีชื่อเล่นจริงๆ ว่า “ตุ๊กตุ่น” มันดูขัดกันอย่างไม่น่าให้อภัยเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ!

และถ้าพอจะสังเกตกันอยู่บ้าง จากแรกเริ่มเดิมทีที่เคย ‘ซิ่ง’ อย่างสุดเหวี่ยง
เพื่อนผม ‘Soft’ ลงเรื่อยๆ ตามกาลเวลา และความน่าจะเป็น
เมื่ออยู่บนเส้นทางแห่งความรัก

7 comments:

Anonymous said...

ไหนๆก็เหลือผู้ชายแค่ 2 คน
ก็คบๆกันไปเถอะนะ
จะได้ไม่เหงา

อยากรู้ความหมายจริงๆ ว่าเพลง You know what I mean ความหมายจริงๆ คือไร...สงสัยมานานละพอๆกะ Wonderwall...

อิอิ...NUNI

Anonymous said...

อยากไปเจอเพื่อนๆมากมายแต่คงไม่ได้ไปเพราะติดธุระทางราชการที่มิอาจจะเลื่อนได้ คงต้องฝากซองยินดีไปด้วย แล้วจะไปวันไหน บอกด้วยเด้อ

เกริ่นมาตอนแรกตกใจเลย ลมนี่มันติดง่าย

พูดถึงลมกันอีกแระ

Insomniac said...

ฝากแสดงความยินดีกับเพื่อนณัฐด้วยคนครับ

Anonymous said...

เมื่ออยู่บนเส้นทางแห่งความรัก...

อืม...

น้อยคนนักจะรู้จักกับมันจริงๆ ...

Anonymous said...

ฝากความคึดเถิงเถิงพี่ตุ๊กตุ่นด้วยเน่อ

ภาพหัวหน้าคณะสิบสามทรชน
กลายเป็นนายตุ๊กตุ่น ซุกซน
ขุดนู่นนี่นั่น มันบาดตาผมจริงว่ะ

รูปๆเดียว แทนคำบรรยาย พันๆ คำ :0

Anonymous said...

นั่งรถตู้ไปน่านกับตุ๊ดตู่ วันที่ 5 เช้า - ถึง เย็น

วันที่ 6 เช้า แห่ขันหมาก - ป๊ะโอ๋
วันที่ 6 เย็น บุฟเฟ่บ้านนอก+รำเซิ้ง+เหล้าต้มไม่อั้น

วันที่ 7 เช้า - นอนตาย 1 รอบ
วันที่ 7 บ่ายๆ - ขึ้นรถทัวร์จากน่าน ไป ลำพูน

วันที่ 8 อยู่งานแต่งตุ๊กตุ่น

โอเค๊...

1306ix said...

แรบแทรบ

ว่าแต่มีรำเซิ้งด้วยเหรอเจ้