8/10/2007

บางแสนแสบ









หากว่าการเดินทางโดยอากาศยานมีสายการบินทางเลือกสำหรับคนทรัพย์น้อยแต่รอคอยโอกาสสยายปีกโบยบินสู่ฟ้ากว้างที่เรียกว่า ‘สายการบินต้นทุนต่ำ’ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘Low Cost Airline’ ผมว่าชายหาดบางแสนก็น่าจะเป็น
‘หาดทรายต้นทุนต่ำ’ หรือ ‘Low Cost Beach’ สำหรับใครหลายคนที่อยากชมชื่นรื่นรมย์กับทะเลไทย โดยเฉพาะกับพี่น้องภาคอีสานและเหนือ บางแสนคงคล้ายเป็นจุดเริ่มต้นของการรู้จักทะเลของใครหลายคนที่ว่านั้น

แม้ไม่ค่อยมีความสวยสดงดงามของชายหาดและน้ำทะเลเหมือนที่อื่น แต่ผมพบว่าบางแสนมีบรรยากาศพิเศษบางอย่างห้อมล้อมอยู่โดยรวม และพร้อมที่จะโอบกอดใครก็ตามที่เปิดใจปล่อยกายรับมัน

หาดทราย, สายลม, เสียงคลื่น, ต้นมะพร้าว, เตียงผ้าใบ, ไก่เหลือง, ส้มตำ,
ห่วงยางวงโต, เครื่องบินโฟม, จักรยานยาน (อันนี้ผมเรียกเองจากลักษณะของมัน ซึ่งบางคันก็ต้องเรียกจักรยานยานยาน) ล้วนทำหน้าที่ของมันอย่างดีเสมอมา

ผมมาปรากฏตัวที่บางแสนอีกครั้งในช่วงเวลาใกล้เที่ยงของวันอาทิตย์ธรรมดาๆ วันหนึ่ง หลังจากคืนก่อนมีเหตุให้ต้องพักหลับนอนแถวนี้ คืนนั้นก่อนนอนก็คิดขึ้นมาได้ว่าก่อนเดินทางกลับน่าจะแวะไปเดินเล่นชายหาดบางแสนเสียหน่อย จะว่าไปตอนก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่เคยมุ่งใจไปหาดบางแสนกับเค้าซะที มีแต่เฉียดไปหาดวอนนภา หรือไม่ก็แฉลบไปทางแหลมแท่น เลยขึ้นเขาสามมุกไปก็มี วันนี้คงจะได้อะไรจากหาดบางแสนบ้าง จากที่เคยเป็นเพียงภาพผ่านสองข้างทางมาหลายคราว เดินเรื่อยเปื่อยตามทางสักพักจู่ๆ คำๆ หนึ่งก็แลบขึ้นมาในหัว...

--บางแสนแสบ--

ภาพเด็กน้อยวิ่งเล่นกันไปมาตามชายหาด บ้างแหวกว่ายกับคลื่นก้อนกะทัดรัดอยู่ในทะเล โดยมีผู้ปกครองคอยดูอยู่ห่างๆ วัยรุ่นหนุ่มสาว บ้างนั่งพูดคุยสังสันทน์กันบนเก้าอี้ผ้าใบด้านบนที่เพียบพร้อมไปด้วยเสบียง บ้างก็เตะฟุตบอลชายหาด ต่างโชว์ลีลาลูกหนังกันเต็มคราบ บ้างร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนานเคล้าด้วยเสียงให้จังหวะจากกลองยาวและขวดแก้ว บ้างเดินจีบจู๋จี๋กันตามชายหาดเป็นคู่ๆ บ้างปั่นจักรยานยานเล่นอยู่ริมถนนถัดออกไป โดยมีเสียงเจื้อยแจ้วจากบรรดา
พ่อค้าแม่ขายที่เรียงรายอยู่ทั่วไปดังแทรกขึ้นมาเป็นระยะ

ถ้าจะเปรียบบางแสนเป็นบทเพลงก็คงเป็นได้หลากหลายแนว ทั้งเพลงร็อกโยกหัว, เพลงโจ๊ะยักไหล่ (เด็กแซ้บแถวนั้นยักไหล่สนับสนุนอย่างเข้าจังหวะ), เพลงเต้นรำสนุกสนาน (อันนี้เห็นบ่อย), เพลงเพื่อชีวิต (ส่วนมากมาตอนกลางคืนช่วงดึก), เพลงรักชุ่มฉ่ำ หรือเพลงอกหักใจสลาย (อย่างหลังขอบอกว่ามันแสนเศร้า เหงาอย่าบอกใครเชียว)

เวลาผ่านไปกี่ปีๆ บรรยากาศของบางแสนก็ยังคงร้องบรรเลงอยู่อย่างนั้น
สำหรับผม เมื่อก่อนบางแสน ‘แสบ’ อย่างไร ปัจจุบันก็ยังคง ‘แสบ’ อยู่อย่างนั้น

ไม่จำเป็นต้องเชื่อ! หากอยากรู้ว่ามันแสบหรือไม่ แค่ไหน อย่างไร ไม่ยาก
หาเตียงผ้าใบสีสันถูกใจสักตัว แล้วมองหามุมที่คิดว่าเหมาะ

จากนั้นนั่งลง แล้วฟัง--

2 comments:

Anonymous said...

Low Cost แบบนี้นะ ไม่ใช่ Local

1306ix said...

ขอบคุณมากๆ เลยครับ

แก้ไขให้แล้วครับ^^