9/14/2007

ไปไม่เป็น


“หลายๆ ครั้งชีวิตไม่ได้มีใครมาทำร้าย ไม่มีกระทั่งอุปสรรคขวากหนาม แต่กลับเป็นหัวใจเราเองที่ฟุ้งซ่านสับสน จนตรอกตามความคิดฝันจินตนาการ ซึ่งหากใคร่ครวญและหาทางไปต่อได้ ก็ดี ก้าวเดินไปข้างหน้าตลอดเวลา ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่มนุษย์ผู้หนึ่งพึงมีศักยภาพที่จะไปได้ แต่หากยังมืดมน ผมคิดเอาเองว่าบางทีเราอาจจะต้องหยุด ตราบที่ได้ตั้งใจถึงที่สุดแล้ว ไม่ปิดตัวเอง และไม่ยึดติดอยู่กับกรงขังแห่งอคติ หากทำได้แค่ไหน ก็แค่นั้น รักษามาตรฐานที่ดีนั้นไว้ ผมไม่เห็นว่าจะน่าละอายหรือมีอะไรเสียหาย
“จะว่าไปก็ไม่จำเป้นต้องรอให้มืดมนหรือตีบตันหรอก ทำไมคนเราต้องเดินหน้าตลอดเวลา ผมรู้สึกว่าหยุดบ้างก็ได้ ถ้าดอกไม้ข้างทางมันสวย”

วรพจน์ พันธุ์พงศ์

.............

สิบสามโพลระบุว่าจากการทำการสำรวจในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาโดยการสังเกตุ
และจำ (โดยไม่มีการระบุว่ามีการจดแต่อย่างใด) ได้ส่งผลการประเมินอย่างไม่เป็นทางการมาให้ผมว่า ตลอดการเข้า/ต่อแถวอะไรก็ตาม และในขณะที่มีการเคลื่อนไปข้างหน้าของแถวที่ว่านั้น ผมมักโดนเหยียบส้นรองเท้าเป็นประจำ
หรือจะเรียกว่าแบบผูกขาดเลยก็ว่าได้

ผมอ่านแบบประเมินและนิ่งคิดชั่วครู่

สันนิษฐานข้อแรก คือ ผมเดินช้าไป
คุณคนข้างหลังเดินเร็วไป คือสันนิษฐานข้อต่อมา
ผมกะระยะไม่เก่ง – ข้อที่สาม
มัน (ไอ้คนข้างหลัง) กะระยะไม่เป็น – ข้อที่สี่
และ เราทั้งคู่ไม่สันทัดในระยะห่าง เป็นข้อสุดท้าย

จากสันนิษฐานข้อแรก ผมขอชี้แจงว่าผมเพียงแต่คิดเอาเองว่าจังหวะของแถวที่เคลื่อนไปข้างหน้านั้นมันจะต้องมีอาการชะงักของแถวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการหยุดจ่ายหรือรับบางอย่างในจุดที่ต้องหยุด ซึ่งผมว่ามันไม่จำเป็นต้องไหลตามแถวที่เคลื่อนไปแบบแนบชิดชนิดติดกันกับคนข้างหน้าขนาดต้องหายใจรดใส่ท้ายทอยกันก็ได้ การเว้นว่างสักระยะ สักช่วงตัว พอให้หายใจหายคอสะดวก
น่าจะเหมาะกว่าไหม

คุณคนข้างหลังเข้าใจไหมครับ ว่าคุณน่ะเดินเร็วไป ซึ่งหากเป็นดังนี้แล้วตามสันนิษฐานของผมข้อที่สองน่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่น่าจะถูกต้อง ส่วนอีกสามข้อที่เหลือผมขอใช้ตัวช่วยตัดทิ้งไปเลยแล้วกัน

ทีนี้คุณคงเข้าใจและคงไม่เหยียบส้นรองเท้าผมอีกต่อไปแล้วใช่ไหมครับ

“เห็นท่าจะไม่ครับ-”

“สันนิษฐานข้อที่สองเป็นคำตอบที่ผิดครับ (ขออภัยหากไม่มีการเว้นระยะคำตอบให้ลุ้นกันจากคุณไตพบอีกต่อไป เนื่องจากเวลามีไม่มากนัก) ที่ถูกคือคุณนั่นแหละเดินช้า คนอื่นๆ เขาจะรีบไปทำมาหากินกัน แถวเขาสะดุดไปหมดแล้วเนี่ย! คุณน่ะกลับไปเดินเอ้อระเหยแบบนี้ที่อื่นจะเหมาะกว่าไหมครับ”

เสียงคุณไตพบดังแว่วมาจากทางด้านหลังถัดออกไป

.............

หรือผมจะเดิ น ช้ า ไ ป จ ริ ง ๆ

No comments: