9/20/2007

ดูคล้ายๆ แต่มันไม่ใช่


ต้องขอยอมรับโดยสดุดีอีกครั้งว่า การล้อมวง และนั่งลงสังสันทน์เฮฮาปาร์ตี้กับมิตรสหายไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ริมทะเลท่ามกลางแสงดาวที่สุกสกาวพร่างพราวเบื้องบน ข้างกายเรียงรายด้วยแนวมะพร้าวสูงต่ำ เคล้าเสียงคลื่นขับกล่อมในยามค่ำคืนจนดึกดื่นนั้นย่อมเป็นความสำราญ และเบิกบานอย่างสุดจะหาใดปาน

ดูดล้ายๆ คือทั้งหมดสำหรับคืนสุขค่ำคืนหนึ่ง เพียงแต่ว่าในช่วงเวลานี้สิ่งเหล่านั้นมันแค่ไม่ใช่อย่างที่ “ข้างใน” ของผมมันเพรียกหาแต่อย่างใด

เปล่าเลย- ไม่ใช่ว่าไม่สนุก ผมสนุกมาก เรียกว่าแทบจะมากว่าสหายที่ร่วมวงเดียวกันกันด้วยซ้ำ หากประเมินจากเสียงหัวเราะและปริมาณการพร่ำเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ (จนถึงขั้นพร่ำเพรื่อ) เพียงแต่ทุกๆ ภาพที่พานพบประสบเจอครานั้น มันแค่ไม่มี “แรงดึงดูดแปลกๆ” ตอบสนองให้ “ข้างใน” เหมือนครั้งที่ย่ำไปในสถานที่ๆ ไกลออกไป และมีความคุ้นชินกับมันในปริมาณที่เกือบจะเป็นศูนย์ เรื่องราวที่นอกเหนือจากการคาดเดาก็พร้อมจะเข้ามาตบหน้าเราได้ทุกเมื่อ เพียงแค่เรา (ลัก) พาตัวเองไปยืนอยู่ในขอบเขตดังกล่าว และเปิดหน้าตารับการตบ!

“ชีวิตเป็นของนาย นายได้มันมาจากพ่อและแม่นายแล้ว
อย่าลืมใช้มันก่อนหมดอายุล่ะ”


สำนวนภาษาอังกฤษแปล่งๆ และแปลกๆ แต่เข้าใจง่ายของไมค์ (Mike) เพื่อนชาวแคนาเดี่ยนต่างวัยรุ่นพี่ อายุราว 45 ปีเศษที่บอกผมก่อนที่เราจะลาจากกันในเช้าวันขึ้นปีใหม่ (2007) เราเจอกันที่สังขละบุรีเมื่อตอนต้นปี แลบเข้ามาในหัวในขณะที่ผมเกิดความรู้สึกชาที่หน้า และภาพวันนั้นก็ค่อยๆ ปรากฏไล่เรียงตามมา

ไมค์บอกผมว่าเขาชอบเมืองไทยโคตรๆ เขาเคยมาเมื่อราว 7 ปีที่แล้ว ครั้งนั้นเขามาเป็นอาสาสมัครสอนหนังสือให้เด็กๆ ที่จังหวัดเพชรบูรณ์อยู่ประมาณ 4 ปี (ถ้าผมหรือไมค์จำไม่ผิด) ครั้งนี้เลยชวนเอวี่ (Arvi) ภรรยารุ่นราวคราวเดียวกันมาเที่ยวเมืองไทยด้วย เอวี่เป็นแม่ครัวประจำอยู่ในภัตราคารอยู่ที่แคนาดา ทั้งสองพบกันที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ (สอบถามแล้วทั้งคู่บอกว่าจำไม่ได้) ขณะที่ต่างคนต่างออกเดินทางท่องเที่ยว และตกลงร่วมชีวิตกันหลังจากวันนั้น โดยเอวี่นั้นย้ายไปอยู่กับไมค์ที่แคนาดา
“ทำอาหารอร่อยมาก!” ไมค์บอกอย่างนั้น
อย่างไม่ต้องสงสัย- ผมเชื่อ!
เอวี่บอกกับผมว่าถ้ามีโอกาสไปแคนาดา เธอจะปิดหมู่บ้าน และทำอาหารเลี้ยงตอนรับผมอย่างสุดฝีมือ และพักที่บ้านเธอกับไมค์ โดยที่ผมไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งนั้น ฟรีตลอดงาน เพราะคงจะหมดตัวไปกับตั๋วเครื่องบินแล้ว พอเธอพูดจบเราก็หัวเราะกันลั่น (เพียงแต่ผมเท่านั้นที่แอบหัวเราะขื่นๆ อยู่ในใจ T_T)

ผมยังจำได้ดีถึงคืนวันนั้น- เกือบเที่ยงคืนของวันส่งท้ายปีเก่าปีกลาย รสชาดของ Cave Spring Cabernet Niagara Peninsula VQA ปี 05 ที่ไมค์บรรจงรินให้ผมดื่มคืนนั้นมันยังอร่อยหวานซ่านอยู่ที่ปลายลิ้นไม่รู้ลืมจนถึงวันนี้อยู่เลย ไมค์บอกว่าเขาเตรียมมาจากแคนาดาเพื่อมาดื่มฉลองในวันนี้กับเอวี่
"ที่นี่-ที่เมืองไทย" ไมค์ระบุพิกัดฉลองให้ผมฟังขณะริน ผมจึงพลอยได้รับผลบุญจากการที่ (ดัน) ไปนั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารมื้อค่ำคืนนั้นกับเขาทั้งสองได้อย่างถูกที่ถูกเวลา และถูกปี

"Happy New Year!"

เราร่วมประสานเสียงต้อนรับการมาถึงของปี 2007 โดยมีสายลมแห่งฤดูหนาวช่วยขับกล่อมและเป็นพยาน ในร้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่สังขละฯ

.........

ที่ริมทะเลค่ำคืนนั้นผมสนุกมากมาย และมีความสุขเหมือนเช่นเคย

เพียงแต่บรรยากาศมันเป็นกันเองไปหน่อย

2 comments:

Anonymous said...

อ่านแล้ว...
นึกภาพที่สังขละออกเลย
อืมม ได้บรรยากาศดี

^ ^

Anonymous said...

ขอบคุณมาก ๆ นะครับ