8/17/2011

เหม็นกลิ่น

ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน และน้องชายฉันเคยมีกลิ่น
คือตอนเด็กๆ น้องชายของฉันเหม็นมาก
เหม็นนี่หมายถึงตัวน้องฉันมันมีกลิ่นเหม็นโชยทั้งตัว
หนึ่งคือเนื่องมาจากช่วงขาใต้เข่าลงไปนั้นมันจะมีแผลเป็นเม็ดๆ เป็นตุ่มๆ เป็นปุ่มๆ เป็นดวงๆ อยู่มากมายลายขาไปหมด (ซึ่งมองมากๆ เข้าก็อาจตาลายได้เช่นกัน)
และแผลเหล่านั้นมันก็จะมีน้ำเหลืองไหลซึมออกมาอยู่เนืองๆ

เหม็นมาก

อีกสาเหตุหนึ่งของความเหม็นก็คือ “อ้วก”
เพราะน้องชายฉันคนนี้มันท้องเสาะง่ายยิ่งกว่าง่าย กินอะไรเข้าไปก็กลายกลับออกมาเป็นอ้วกหมด คือเดี๋ยวอ้วก เดี๋ยวอ้วก

ซึ่งก็เหม็นมากกก

และมันก็เหม็นเป็นเช่นนั้นอยู่หลายปีดีดัก
แม่ฉันก็ต้องอดทนอดกลั้นกับกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ส่วนพ่อฉันก็พยายามสืบเสาะและสอดส่องหาช่องทางวิธีการรักษาเจ้ากลิ่นอาการที่ว่าอยู่ไม่เว้นเดือน ทั้งหยูกยาประเภททาถูและดื่มกิน แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหาย จนมีข่าวแว่วเข้าหูพ่อว่ามีคนยิง “หมูหลึ่ง” ได้ตัวหนึ่งนั่นแหละ
นั่นถือเป็นข่าวดีทีเดียว เพราะบรรดาชาวบ้านในหมู่บ้านฉันเชื่อกันว่าถ้าได้เอาน้ำมันหมูหลึ่งมาลองทาขาน้องของฉันดู รับรองว่าต้องหายแน่ๆ

ซึ่งไอ้เจ้าหมูหลึ่งที่ว่านี่สำมะคัญนัก!
ว่ากันว่าตัวมันนั้นเหม็นนักเหม็นหนา เหม็นไม่ธรรมดา เหม็นเป็นบ้าเป็นหลัง
มันเป็นหมูตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ ตัวมีสีขุ่นๆ ตุ่นๆ อาศัยอยู่บนเทือกเขาหลังบ้านของฉันซึ่งอยู่ถัดไปไม่ไกล นานๆ ทีมันจึงจะหลงลงมาหาอาหารกินแถวหมู่บ้านเรา

“โอ๊ย! ตัวมันเหม็นนัก เหม็นจริงๆ วิ่งลงคลองงี้ น้ำคลองเหม็นเน่าไปสี่ห้าวัน”
ป้าฉันคนหนึ่งสำทับ
งานนี้คงประมาณว่า ‘เหม็นยอกเอาเหม็นบ่ง’ กระมัง — ฉันเดาน่ะ

แล้วพ่อฉันก็ลอง ซึ่งก็เป็นเรื่องสิทีนี้
คือมันหายจริงอะไรจริงจริงๆ ด้วย มหัศจรรย์มาก!
เพื่อนบ้านที่มาช่วยกันลุ้นก็ตื่นตาตื่นใจกับเรื่องนี้
ต่างก็พากันเล่าขานกันไปด้วยอัศจรรย์ในสิ่งที่ประจักษ์

ส่วนเรื่องอ้วกนั้น น้องฉันมันหยุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่เราก็ลืมกันไปแล้ว
ฉันเดาเอาว่าน่าจะเป็นวิวัฒนาการของระบบภายในที่พัฒนาขึ้นตามวัย
ไม่สนุกเหมือนเรื่องน้ำมันหมูหลึ่งที่ว่าเลยเนอะ
แล้วนับตั้งแต่นั้นน้องฉันก็หมดเหม็น
พ่อกับแม่ก็พลอยหมดห่วงตามไปด้วยเลย
ส่วนเจ้าหมูหลึ่งนั้นก็ไม่เคยยินข่าวว่ามีใครได้เหม็นหรือได้เห็นมันมานานกว่ายี่สิบปีแล้วตั้งแต่เมื่อคราวครั้งนั้น

— จบ —

ฉันขอจบเรื่องเล่าของน้องชายฉันไว้แค่นี้ก็แล้วกันนะ
ที่จริงเรื่องนี้ฉันลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าได้เคยเกิดขึ้นจริงเมื่อตอนเป็นเด็กเล็ก ถ้าไม่ได้ฟังเรื่องเล่านี้จากบรรดาป้าๆ น้าๆ ของฉันอีกครั้งในวันที่ช่วยกันทำขนมสำหรับไหว้สารทจีนและรอยยิ้มขันนั้นของแม่ ภาพความทรงจำจางๆ เกี่ยวกับเรื่องเหม็นๆ เรื่องนี้ของฉันถึงได้พอมองออกเป็นรูปเป็นเรื่องขึ้นมาบ้าง
ติดแต่เพียงยังมองไม่เห็นว่ามันจะเหม็นตรงไหน.....
ใช่มั๊ยแม่?

No comments: