"กางเกงสวยดี แม่ซื้อที่ไหนน่ะ?" ผมถามแม่ในบ่ายของวันที่ฝนตกอย่างหนักและต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อคืนก่อน
"แผงขายหมูในตลาด"
"ห๊า?" ผมไม่แน่ใจในหูของตัวเอง เสียงฝนไม่น่าทำให้ประสาทการได้ยินของผมเพี้ยนไปขนาดนั้นน่า"เนี่ย กางเกงตัวนี้แม่ซื้อมาจากแผงขายหมูในตลาดเมื่อเช้ามืดวันก่อนจริงๆ สวยเหรอ? แม่ชอบ เห็นมันสวยดี เลยซื้อ แต่ก็มีคนซื้อของเค้าเยอะนะ" แม่ยิ้มและตอบผมอีกครั้งเพื่อให้รู้ที่มาของกางเกงตัวที่ผมถาม
"แล้วทำไมต้องไปซื้อที่นั่นล่ะ" ผมถามอีกครั้งเพราะที่นั่นผมหมายถึงแผงขายหมูในตลาดสดตอนเช้ามืดช่วงตีสี่ตีห้าตามต่างจังหวัด
"ก็แม่จะมีเวลาไปซื้อเสื้อผ้าใส่ตอนไหนล่ะ เช้าก็ไปตลาดซื้อกับข้าว กลับมาก็ขายกาแฟ ขายเสร็จก็เข้าสวน กลับมาก็เย็น ห้าโมงครึ่งหกโมง ทำกับข้าว กินข้าวแล้วดูหนัง*แป้บนึงเดี๋ยวก็นอนแล้ว ไม่ได้ไปเดินเที่ยวไหนหรอก ช่วงนี้"
...............
แม่ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม ตื่นตีสี่ ไปตลาดซื้อของ กลับมาขายกาแฟ หาอะไรโน่นนี่ทำไปเรื่อย ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูผลไม้ ก็เข้าสวนเก็บมังคุด ซึ่งที่บ้านผมมีสวนมังคุด ปีนึงช่วงนี้ก็จะคึกคักทีนึง ปีนี้แม่หาคนงานมาช่วยเก็บได้เจ็ดคน เพราะปีนี้ของ (ผลไม้) เยอะ เก็บเองเหมือนปีก่อนๆ ไม่ไหว (ผมก็เคยลงไปช่วยเก็บอยู่ร่ำไป แต่ไม่สม่ำเสมอนัก)
ผมกลับบ้านเนื่องจากมีวันหยุดยาวสามวัน หวังว่าปีนี้จะลงมาช่วยปีนต้นไม้เก็บของเหมือนปีก่อน ซึ่งปกติช่วงฤดูฝลไม้ผมจะกลับบ้านทุกปี อย่างน้อยที่สุดต้องกลับมากินมังคุดที่บ้าน เพราะกินที่ไหนก็ไม่อร่อยเหมือนที่บ้าน ยิ่งถ้าเก็บกินบนต้นเลยนะ.... แหมอย่าให้ Said เลย
ปีนี้มีมรสุมเข้าทำให้ฝนตกอยู่ตลอดทั้งวันเกือบทุกวัน บางวันก็ตกหนักมาก เก็บของไม่ได้ก็ต้องหยุด เพราะมองไปแล้วแยกไม่ออกว่าลูกไหนสุก ไม่สุกเพราะมันมืดไปหมด (นี่มั้งที่เค้าเรียกว่ามืดฟ้ามัวดิน)
แม่บอกว่าอีกไม่เกินสองอาทิตย์น่าจะเก็บของหมด แล้วก็จะเว้นช่วงอีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็มีให้เก็บกันอีกรอบ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า"รุ่นสอง" (บางปีมีถึงรุ่นสามเลยทีเดียว) หลังจากนั้นก็จะได้พักกันซะที ปีนึงมีครั้งนึงก็ต้องเอากันหน่อย เหนื่อยกันหน่อยประมาณเดือนเศษๆ ถึงสองเดือน
แน่นอน เพราะมันคือรายได้หลักของครอบครัว
...............
บ่ายวันนั้นฝนยังคงตกต่อไปอีก แต่เบาลงกว่าตอนช่วงเช้า
ฟ้าเริ่มสว่างพอเห็นแสงแดดขึ้นมาบ้างแล้ว
"กลับบ้านคราวหน้า จะพาไปเดินเล่นนะ" ผมยิ้มและบอกกับแม่
* ดูหนังของแม่ = ละครหลังข่าว